30 พฤศจิกายน 2563 ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษก บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า การชุมนุมของมวลชน วานนี้ ( 29 )ที่กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯถนนพหลโยธิน แขวงและเขตบางเขน กรุงเทพฯ และยุติการชุมนุมไปในเวลา 22.00 น. ภายหลังการยุติชุมนุมพบว่า ทรัพย์สินของทางราชการเสียหายหลายอย่าง เช่น รถตู้ตำรวจมีการพ่นสี ปล่อยลมยาง ทุบทำลายกระจก รวมกว่า 20 คัน, บริเวณรั้วสวนหย่อมของกรุงเทพมหานครเสียหาย ผู้ชุมนุมได้นำสีมาสาดใส่เทราดบนพื้นหน้ากรมทหารราบที่ 11
ทั้งนี้ตำรวจได้ประสานหน่วยที่เกี่ยวข้อง ให้สำรวจความเสียหายในแต่ละส่วนและให้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี โดยภาพรวมของการชุมนุมเมื่อวานพบว่าเข้าข่ายความผิดอย่างน้อย 2 ข้อหา คือ จัดการชุมนุมโดยผิดกฎหมายตาม พรบ.ชุมนุมสาธารณะ และทำให้เสียทรัพย์ซึ่งทรัพย์สินของทางราชการ ส่วนการปราศรัยของแกนนำ อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้าง
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ตำรวจได้จับกุมนายวัชระ ศรีงาม หรือ เจี๊ยบ อายุ 50 ปี หนึ่งในผู้ชุมนุมที่ไปทุบทำลาย และปล่อยลมยางรถตู้ตำรวจสน.สายไหม ทะเบียน ฮษ9647 ที่จอดอยู่ตรงป้ายรถประจำทางบริเวณใกล้กับจุดที่มีการชุมนุม ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
ส่วนภาพรวมการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งแต่ที่มีการจัดการชุมนุมจนถึงปัจจุบัน มีการดำเนินคดีทั่วประเทศไปแล้วกว่า 170 คดี เฉพาะในกรุงเทพมหานคร 110 คดี ส่งสำนวนให้อัยการไปแล้ว 21 คดี ส่วนเกือบทั้งหมดอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง นอกจากนี้ยังมีคดีที่รอส่งให้อัยการอีก 4 คดี และคดีที่อยู่ระหว่างรอสอบสวนอีก 85 คดี