หลังจากที่ผู้นำกลุ่ม G20 ออกมาเรียกร้องในช่วงสุดสัปดาห์เรื่องการจัดจำหน่ายวัคซีนอย่างเป็นธรรม บริษัทยายักษ์ใหญ่ของสหรัฐก็เริ่มประกาศว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเขาจะมีราคาเท่าใด
ผู้ผลิตยาอเมริกัน 2 รายที่ตั้งเป้าจะนำวัคซีนออกสู่ตลาดก่อน ได้เปิดยุทธศาสตร์ราคาของพวกเขา อย่างไฟเซอร์ซึ่งยื่นขออนุมัติการใช้ในสหรัฐเมื่อวันศุกร์ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเขา จะมีราคาเข็มละ 19.50 ดอลลาร์ ส่วนของโมเดอร์นา ซึ่งคิดว่าใกล้จะลงนามในข้อตกลงสำหรับการนำวัคซีนมาใช้ในสหภาพยุโรป ประกาศในสัปดาห์นี้ว่าพวกเขาจะคิดราคาเข็มละ 25-37 ดอลล่าร์
เนื่องจากต้องใช้วัคซีนสองเข็มต่อคน โดยเว้นระยะห่างหลายสัปดาห์ ค่าใช้จ่ายโดยรวมก็จะเพิ่มเป็นสองเท่าคือระหว่าง 39 ดอลล่าร์ และ 50 - 74 ดอลล่าร์ตามลำดับ
ขณะเดียวกัน ในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ ผู้ผลิตวัคซีน สปุตนิก วี ของรัสเซียบอกว่าราคาวัคซีนของพวกเขา "จะต่ำกว่านี้มาก" โดยโฆษกของ Russian Direct Investment Fund ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนสำหรับการพัฒนาวัคซีนให้กับศูนย์กามาเลยา ในกรุงมอสโก ซึ่งเป็นคนพัฒนาวัคซีน บอกว่าโครงสร้างราคาของพวกเขาจะประกาศอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า โดยก่อนหน้านี้มีการระบุว่าราคาส่งออกจะอยู่ที่ประมาณ 10 ดอลล่าร์สำหรับทั้งสองเข็ม
เมื่อเดือนสิงหาคม รัสเซียกลายเป็นประเทศแรกของโลกที่จดทะเบียนวัคซีนสำหรับโควิด -19 โดยรายละเอียดต่าง ๆ ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ The Lancet ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันสามารถกระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกันในอาสาสมัครที่มีสุขภาพดี แต่ก็มีการแสดงความกังวลโดยนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่ม เกี่ยวกับความเร่งด่วนในการผลักดันวัคซีนออกมา
ทีมกามาเลยา สามารถพัฒนาและทดสอบวัคซีนได้อย่างรวดเร็วด้วยสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "แพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่ผ่านการทดสอบมาเป็นอย่างดีพร้อมด้วยความปลอดภัยในระยะยาว" ในแนวทางนี้ พวกเขาใช้ สิ่งที่เรียกว่า อเดโนไวรัส ที่นำไปสู่การผลิตวัคซีนสำหรับอีโบลามาแล้ว 3 ตัว รวมทั้งยารักษามะเร็งใหม่ 2 ชนิดที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน การใช้แพลตฟอร์มนี้มีบทบาทสำคัญที่ทำให้สามารถผลิตวัคซีนได้อย่างรวดเร็วและราคาถูก ดังนั้น ราคาของมันจึงต่ำกว่า
ในขณะที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วยุโรป เอเชีย และอเมริกาพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้วัคซีน และส่วนมากก็มักจะซื้อจากหลายบริษัท เพื่อป้องกันความเสี่ยง แต่ก็มีความกลัวว่าประเทศที่ยากจนกว่าจะถูกทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง ซึ่งบรรดาผู้นำโลก ก็ได้ใช้วันแรกของการประชุมสุดยอด G20 เพื่อให้คำมั่นว่าจะ" ไม่ละความพยายาม" เพื่อให้แน่ใจว่าผู้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงวัคซีน การทดสอบ และยาต้านไวรัสโคโรนาได้