สาวอาร์เมเนียแห่สมัครไปรบ

นายตำรวจที่รับผิดชอบดูแลเรื่องนี้ เปิดเผยว่า มีการส่งนักรบหญิง 98 คนไปแนวหน้าแล้ว และตอนนี้ก็มีผู้หญิงมาสมัครกันมาก รวม ๆ แล้ว จะมีการเกณฑ์ผู้หญิงทั้งหมดเกือบ 400 คน เพื่อส่งไปแนวหน้า ตอนนี้ก็กำลังรอคำสั่งจากกระทรวงกลาโหม เรื่องการส่งอาสาสมัครทหารหญิงชุดใหม่เข้าไปยังแนวหน้า
อาสาสมัครทหารหญิงรายหนึ่งบอกว่า เมื่อสงครามเริ่ม ก็ติดต่อกระทรวงกลาโหมทันทีเพื่อสอบถามว่า ผู้หญิงจะสามารถไปยังแนวหน้าได้อย่างไร และก็ดีใจมากที่รู้ว่าผู้หญิงมีโอกาสที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ และเธอก็มั่นใจว่ากองทัพต้องการผู้หญิง
ขณะที่เมื่อวาน โทรทัศน์อาเซอร์ไบจานก็แสดงภาพความสูญเสียของที่มั่นแห่งหนึ่งของฝ่ายอาร์เมเนีย ซึ่งมีทั้งซากรถถังที่ถูกเผาไหม้ ยานพาหนะทางทหาร ปืนและกระสุนที่ถูกทหารทิ้งไว้ก่อนการล่าถอย
ส่วนอาร์เมเนียก็บอกว่าเฮลิคอปเตอร์ของอาเซอร์ไบจานลำหนึ่งถูกยิง และไปตกในเขตของอิหร่าน ขณะที่ฝ่ายอาเซอร์ไบจานปฏิเสธข้อมูลเรื่องนี้
อาร์เมเนียเปิดเผยด้วยว่ากองกำลังฝ่ายคาราบัคห์ ได้ผลักดันฝ่ายศัตรูให้ถอยออกไป โดยทำให้มีผู้เสียชีวิต 350-360 ราย และบาดเจ็บอีก 600 คน ทำลายเฮลิคอปเตอร์ไป 3 ลำ รถถังและยานเกราะ 15 คัน โดรน 6 ลำ และเครื่องยิงจรวด 1 ชุด

การสู้รบระหว่าง 2 ประเทศ เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ และก็ยังคงดำเนินต่อไปนับตั้งแต่นั้นมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยราย และบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมากในทั้งสองฝ่าย โดยทั้งฝ่ายอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานต่างตำหนิซึ่งกันและกันสำหรับการสู้รบที่ยังคงดำเนินต่อไป
สองประเทศอดีตสหภาพโซเวียตพิพาทกันเรื่องนากอร์โน - คาราบัคห์มานานหลายทศวรรษ โดยเคยทำสงครามใหญ่กันในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 และยุติลงในปี 2537 หรือ 3 ปีหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต
นากอร์โน - คาราบัคห์ ซึ่งอยูู่ในเขตของอาเซอร์ไบจาน แต่ถูกควบคุมโดยกองกำลังชนกลุ่มน้อยชาวอาร์เมเนียที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอาร์เมเนียมาตั้งแต่ปี 2537