
วันที่ 26 ก.ค.2563 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ระหว่างช่วยลูกพรรคหาเสียงกรณีที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ออกมาระบุว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษานั้น เป็นทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด เเละมีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังนั้น ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ซึ่งเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับผู้ที่มีอำนาจอยู่และกล่าวหาผู้อื่นว่ามีผู้สมรู้ร่วมคิด หรือม็อบมุ้งมิ้ง
โดยเรื่องดังกล่าวเป็นสิทธิทางรัฐธรรมนูญ และนักศึกษาออกมาพูดชัดเจนว่าอนาคตถูกขโมยไป การที่ ผบ.ทบ. ออกมาระบุว่า เด็กๆควรเรียนหนังสือ เลี้ยงดูพ่อแม่ ทำให้เห็นชัดเจนว่าความสำคัญถูกกดลดลงมามากพอสมควร หากทหารยังพูดเรื่องการเมืองได้ เยาวชนก็สามารถพูดเรื่องการเมืองได้ อย่างที่เยาวชนได้กล่าวไปแล้วว่าหากการเมืองดีจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง หากจะรับฟังก็ต้องรับฟังจริงๆ ไม่ใช่แค่ทำท่าว่าจะรับฟังเท่านั้น
ส่วนกรณีอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้อง นาย บอส วรยุทธ อยู่วิทยานายพิธากล่าวว่า ไม่สามารถก้าวล่วงได้ แต่สามารถสะท้อนอภิสิทธิ์ชน สะท้อนวีไอพี โดยเมื่อเทียบฎีกาจะทราบว่ามีหลายกรณีขับรถชนผู้เสียชีวิตแล้วมีการรับผิดชอบเยียวยา หรือติดคุกหลายปี คนที่ใช้เทคนิคทางกระบวนการเพื่อยืดเวลาให้หมดอายุความ
สังคมต้องยอมรับว่ามีคนทำเรื่องนี้ได้อยู่ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงความยุติธรรมในประเทศ โดยในส่วนของพรรคก้าวไกล พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็นผู้ทำสำนวนในคดีดังกล่าว กำลังดำเนินการร่วมกับนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะกรรมาธิการกฎหมาย โดยจะนำเรื่องดังกล่าวเข้ามาพิจารณาเพื่อปฏิรูปข้าราชการตำรวจต่อไป