ผลพวงของการระบาดจากไวรัสโควิด-19 นำมาซึ่งนโยบายที่ภาครัฐเตรียมให้โรงเรียนทำการเรียนการสอนแบบออนไลน์ โดยช่วงเปิดเทอม วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 จะมีการสอนผ่านทางอินเทอร์เน็ต และรายการโทรทัศน์เป็นหลักนั้น บนโลกออนไลน์ได้มีเสียงสะท้อนจำนวนมากจากผู้ปกครองและสังคม เพราะหลายคนมองว่า การเรียนออนไลน์นั้น ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ทั้งการซื้อคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ และค่าอินเทอร์เน็ต ซึ่งไม่ใช่ว่าทุกครอบครัวจะมีความพร้อมในการซื้อ และถือเป็นการผลักภาระให้กับประชาชน
อ่านข่าวเพิ่มเติม >> ส่องนโยบาย "เรียนออนไลน์" จากดราม่า "ยายพาหลานซื้อมือถือ"
เกี่ยวกับเรื่องนี้ในเฟซบุ๊กมีภาพความเดือดร้อนของผู้ปกครอง เมื่อมีคุณยายพาหลานมาซื้อโทรศัพท์มือถือเพื่อให้หลานเรียนออนไลน์ แต่มีงบแค่ 2,000 บาท และยังต้องจ่ายค่าอินเทอร์เน็ตเพิ่มทุกเดือนอีก ซึ่งเป็นผลกระทบจากการที่เด็กต้องเรียนออนไลน์
นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง นำเงินที่เก็บไว้ในกระปุก ทั้งแบงก์ 100 แบงก์ 20 และเหรียญจำนวนมาก มาซื้อโทรศัพท์เพื่อไปใช้ในการเรียนออนไลน์ เป็นอีกภาพที่สื่อให้เห็นชัดเจนว่านักเรียนและผู้ปกครองต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเอง
อ่านข่าวเพิ่มเติม >> เปิดคลิปประทับใจ..ครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ที่ "นักรบเสื้อกาวน์" ได้กลับบ้าน
ขณะที่ในทวิตเตอร์ ก็มีการวิจารณ์ประเด็นนี้ผ่านแฮชแท็ก #เรียนออนไลน์ หลายคนไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ เพราะนอกจากจะเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ยังทำให้ประสิทธิภาพการเรียนลดลง ผู้ปกครองที่ต้องไปทำงานก็ไม่มีเวลามาดูแลลูกที่ต้องเรียนที่บ้าน รวมทั้งมีอีกหลายครอบครัวไม่มีศักยภาพพอที่จะเข้าถึงสื่อการเรียนการสอนได้ อยากให้กระทรวงศึกษาธิการสนใจข้อจำกัดเหล่านี้ด้วย อย่านั่งแต่ในห้องแอร์