svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ชี้ไวรัสโคโรน่า จะพีคสุดสัปดาห์หน้า อัตราการตายลดลง

29 มกราคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของสาธารณรัฐประชาชนจีน เรียกไวรัสอู่ฮั่นว่าเป็น "ปีศาจร้าย " ที่ส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขของโลก และสัญญาเรื่องความโปร่งใสในวิกฤติครั้งนี้ ในช่วงที่ยอดการติดเชื้อเพิ่มสููงมากขึ้นเรื่อย ๆ

ในการพบกับผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก นายเมดรอส เกรเบรเยซุส ผู้นำจีนบอกว่าเขามั่นใจว่าจีนจะควบคุมวิกฤติครั้งนี้ได้ และเชื่อว่านานาชาติจะประเมินการระบาดของไวรัสอย่างเป็นจริง ยุติธรรม สงบ และมีเหตุมีผล
เขาบอกว่า การระบาดเป็นปีศาจร้าย และจีนไม่สามารถปล่อยให้มันซ่อนตัวอยู่ได้ รัฐบาลจีนมีท่าทีต่อการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างเปิดเผย โปร่งใส และมีความรับผิดชอบ
การหารือครั้งนี้มีขึ้นในช่วงที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกสูงมากกว่า 4,600 คน และมีผู้เสียชีวิต 106 ราย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มขึ้น 1771 คนเมื่อวาน ซึ่งถือเป็นการเพิ่มมากที่สุดในวันเดียว นับตั้งแต่ที่ไวรัสเริ่มระบาดเมื่อเดือนที่แล้ว
หลายชาติ บอกว่ากำลังพิจารณาอพยพคนของตนเองออกจากอู่ฮั่น แต่ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก บอกว่าจีนดำเนินการควบคุมการระบาดได้อย่างรวดเร็ว เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับประเทศอื่น ๆ การประเมินการระบาดควรมองจากมุมมองทางวิทยาศาสตร์และข้อมูลความจริง ไม่ใช่จากการมีปฏิกิริยามากเกินไป และประชาชนควรอยู่ในความสงบ เขาจึงไม่เห็นด้วยกับการอพยพ
นอกจากนั้น องค์การอนามัยโลก ยังปฏิเสธที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินระหว่างประเทศสำหรับการระบาดครั้งนี้ โดยมองว่าปัจจุบัน ปัญหาหลักยังกระจุกตัวอยู่แต่ในจีนเป็นหลัก จึงไม่จำเป็นต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน รวมทั้งบอกด้วยว่าในบรรดาผู้ติดเชื้อที่พบในต่างประเทศทั้งหมด มีรายเดียวในเวียดนาม ที่เป็นการติดเชื้อจากคนสู่คน แต่ก็มีรายงานจากญี่ปุ่นและเยอรมนีเช่นกันว่าพบผู้ติดเชื้อจากคนสู่คน

ขณะเดียวกัน นายจง หนานชาน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคทางเดินหายใจของจีน ที่ดูแลรับมือกับปัญหาเรื่องนี้ บอกว่าการระบาดอาจจะถึงจุดสูงสุดในสัปดาห์หน้าหรือในอีก 10 วัน ขณะที่อัตราการเสียชีวิตคาดว่าจะลดลงอีก
เขาบอกว่าแม้ตอนนี้จะไม่มียารักษาไวรัสตัวนี้โดยตรง แต่ก็มีการสำรวจวิธีการรักษามากมาย และที่พัฒนาไปมากก็คือระบบการช่วยชีวิต เรื่องนี้จะทำให้อัตราการเสียชีวิตลดลงต่อไป
ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยว่าผู้ป่วยที่มีอาการน้อย จะใช้เวลาในการรักษาราว 1 สัปดาห์ ส่วนคนที่มีอาการหนักกว่า จะต้องใช้เวลา 2 สัปดาห์หรือมากกว่า ขณะที่ผู้ป่วยบางคนไม่มีอาการเกี่ยวกับปอดอักเสบ โดยมีแต่ไข้ต่ำ และไอเท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าไวรัสตัวนี้มีการแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉลี่ยแล้วผู้ป่วย 1 คน ทำให้คนอื่น ๆ ติดเชื้อได้ 2 หรือ 3 คน แต่ยังไม่มีหลักฐานว่าไวรัสสามารถแพร่เชื้อได้ขณะที่อยู่ในช่วงฟักตัว โดยช่วงฟักตัวนั้นอยู่ช่วงระหว่าง 1- 14 วัน
สำหรับสัดส่วนการติดเชื้อระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงนั้นพอ ๆ กัน คือผู้ชาย 1.16 คน ต่อผู้หญิง 1 คน และผู้ติดเชื้อที่อายุต่ำกว่า 15 ปีนั้นมีแค่ 0.6 เปอร์เซ็นต์เเท่านั้น สำหรับผู้ที่ติดเชื้อที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรงก็มีอยู่แค่ 16.8 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อมีไม่ถึง 3 เปอร์เซ็นต์

ส่วนที่กรุงปักกิ่งมีการนำโรงพยาบาลเก่า ที่สร้างขึ้นเพื่อรับมือกับไวรัส Sars เมื่อปี 2545 กลับมาปรับใช้เพื่อรับมือกับไวรัสอู่ฮั่น แต่ความพยายามของจีนในการควบคุมการระบาด และรักษาผู้ป่วยมีปัญหาเรื่องความขาดแคลนเครื่องมือเครื่องใช้ เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่มาก และเพิ่มอย่างรวดเร็ว มีการส่งเจ้าหน้าที่การแพทย์จากทั่วประเทศเข้าไปยังมณฑลหูเป่ยราว 6 พันคนจนถึงช่วงเย็นวานนี้ อย่างในอู่ฮั่น โรงพยาบาลต่างๆ สามารถถรองรับผู้ป่วยรวมกันได้กว่า 10,000 คน แต่จากการขาดแคลนชุดป้องกันเชื้อ ทำให้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถลงสนามได้
ขณะที่ทางสหรัฐ ก็ขอให้จีนอนุญาตให้พวกเขาส่งทีมผู้เชี่ยวชาญเข้าไปทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่การแพทย์จีนในภาคสนาม รวมทั้งขอข้อมูลเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มที่ติดเชื้อจากการสัมผัสกับผู้ที่ไม่มีอาการ ขณะที่จีนยังไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธในเรื่องนี้ ปัจจุบันสหรัฐพบผู้ติดเชื้อ 5 คน และกำลังอยู่ระหว่างการประเมินอีก 110 คน
ในส่วนของฮ่องกง ประกาศลดการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างฮ่องกงกับจีน ซึ่งมีทั้งการปิดบริการรถไฟ 2 สาย และระงับการออกวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนแบบรายบุคคล เที่ยวบินระหว่างแผ่นดินใหญ่ก็จะลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง บริการรถโดยสรข้ามพรมแดนก็จะลดลงเช่นกัน มาตรการเหล่านี้เริ่มเมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา นอกจากนั้น ฮ่องกงยังขอให้ข้าราชการทั้งหมดทำงานจากที่บ้าน ยกเว้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสำคัญ ๆ และบริการฉุกเฉิน ขณะที่บริษัทเอกชนจำนวนมากขึ้นก็เสนอเรื่องนี้ให้กับทางพนักงานของตนเองด้วย

logoline