ตำรวจชุดสืบภาค 4 จำนวนกว่า 20 นาย และชุดสืบจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ร่วมกันตรวจสอบภาพเทียบเคียงกับภาพผู้ต้องหา แต่ยังไม่ยืนยันว่าใช่หรือไม่ ขณะเดียวกันเชื่อมั่นว่าอาจจะยังอยู่ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เนื่องจากเช็คสัญญาณโทรศัพท์มือถือพบว่าเจอและหายไปในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด
ทั้งนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด 12 กล้อง ที่บขส. พบคนลักษณะคล้ายแต่ไม่ใช่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในภาพ เป็นวัยรุ่น ต่างจากคนร้ายที่อายุมากแล้ว ยืนยันว่า ไม่พบในภาพวงจรปิด ว่ามาลงที่ บขส. ร้อยเอ็ด ในขณะที่ชุดสืบภาค 4 ประสานกับ ชุดสืบ ภจว.ร้อยเอ็ด และชุดสายสืบสุรสีห์ ลงพื้นที่ตรวจสอบเข้ม ตามที่พักในโรงแรมต่าง ๆ ตรวจสอบ กล้องวงจรปิด ของโรงแรม ร้านค้า คลินิก หน้าร้านสะดวกซื้อ พร้อมกับนำ ภาพถ่ายของคนร้าย กระจายถามประชาชน ในเขตเมืองร้อยเอ็ดเป็นวงกว้าง เพื่อค้นหาคนที่พบและคนที่มีเบาะแสแต่ยังไม่พบคนร้าย ซึ่งมั่นใจว่าอยู่ร้อยเอ็ด และส่งกำลังเข้ามามากที่สุดกว่าทุกจังหวัด
ซึ่งชุดสายสืบร้อยเอ็ดและสืบภาค 4 ยังฝังตัวเฝ้าจับตาในพื้นที่ และบขส. เกรงจะย้อนกลับมา และกระจายในกลุ่มโซเชียลทุกกลุ่ม แกนนำชุมชนทุกหมู่บ้าน ให้จับตาเฝ้าระวังตลอดเวลา
ล่าสุด เวลา 11.20 น. วันที่ 18 ธ.ค.62 พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามจับกุมตัวนายสมคิด พุ่มพวง หรือ บัง เจ้าของฉายา "เดอะริปเปอร์ เมืองไทย" ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่น ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถขับกุมตัวนายสมคิด ผู้ต้องหาได้แล้ว ที่สถานีรถไฟในอำเภอปสกช่ ง จ.นครราชสีมา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานว่าจะนำตัวมาสอบสวนที่ตำรวจภูธรภาค4 หรือ จะนำตัวไปสอบสวนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 เปิดเผยการจับกุมครั้งนี้ว่า มีพลเมืองดีซึ่งกำลังจะเดินทางเข้า กทม. โดยใช้บริการรถไฟสายสุรินทร์ - กทม. ซึ่งในระหว่างที่ขบวนรถไฟมาจอดที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้ปรากฏเห็นชายรูปพรรณคล้ายกับผู้ต้องหา ซึ่งขณะนั้นนอนหลับอยู่บนที่นั่งใกล้ๆกัน พลเมืองดีจึงโทรศัพท์แจ้งมายัง พ.ต.อ.นพเก้า โสมนัส รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ตามภาพถ่ายหมายจับบุคคลต้องสงสัย ซึ่งหลังรับแจ้งจึงได้ประสานไปยังตำรวจนครราชสีมาให้เข้าตรวจสอบ ก่อนจะพบว่า บุคคลดังกล่าวคือนายสมคิด พุ่มพวง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น