นายกฯ สั่งทีมค้ามนุษย์ดูคำสั่งไม่ฟ้อง "อ่างวิคตอเรีย"

แหล่งข่าวใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2562 พล.อ.ประยุทธ์ ตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีเครือข่ายต่อต้านค้ามนุษย์ 13 องค์กร ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบการใช้ดุลยพินิจขององค์กรอัยการ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ที่กลับความเห็นสั่งไม่ฟ้อง และถอนหมายจับผู้ต้องหารายสำคัญในคดีอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท เมื่อวานนี้ นายกฯ ได้มีคำสั่งให้ทีมที่ดูเรื่องค้ามนุษย์ ตรวจสอบเอกสารประกอบข้อร้องเรียนดังกล่าว
ก่อนหน้านั้น 1 วัน นายกฯ สั่งการให้ฝ่ายกฎหมาย รวมถึงกระทรวงยุติธรรม ดำเนินการเรื่องนี้ให้เกิดความชัดเจน พร้อมส่งเรื่องไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องพิจารณาด้วย

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า หลังจากตัวแทน 13 องค์กร เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบการใช้ดุลพินิจของอธิบดี ดีเอสไอ ผ่านเลขานุการรมว.ยุติธรรม เมื่อวันที่ 7 ต.ค. นั้น ในวันนี้ รมว.ยุติธรรม สมศักดิ์ เทพสุทิน จะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในเรื่องนี้อย่างละเอียด
ก่อนหน้านี้ เครือข่ายต่อต้านการค้ามนุษย์ 13 องค์กร ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ตรวจสอบการใช้ดุลยพินิจขององค์กรอัยการ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอในการกลับความเห็นสั่งไม่ฟ้อง และถอนหมายจับ นางนิภา และนายธนพล วิระเทพสุภรณ์ ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีอาบอบนวด วิคตอเรียซีเครท   นอกจากนี้ยังเกิดกระเเสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุใดจึงไม่มีผู้ต้องหาคนไหนถูกดำเนินคดีข้อหาค้ามนุษย์

สำหรับนโยบายปรามปรามการค้ามนุษย์ ของพล.อ.ประยุทธ์ นั้น เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2562 นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันต่อต้านการค้ามนุษย์ ประจำปี 2562 โดยได้กล่าวเปิดงานเอาไว้น่าสนใจ คือ
"เชื่อว่าการค้ามนุษย์เป็นเรื่องที่ทุกประเทศต้องให้ความสำคัญ ป้องกัน พร้อมแก้ไขปัญหา และตระหนักถึงภัยที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ด้วยความมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่องและจริงจังทำให้ไทยได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้นในรายงานการค้ามนุษย์ ของกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา การปลดใบเหลืองการทำประมงผิดกฎหมายของสหภาพยุโรป ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรพัฒนาเอกชน องค์การระหว่างประเทศที่สนับสนุน และให้ความร่วมมือกับส่วนราชการอย่างดี
อย่างไรก็ดี กระบวนการค้ามนุษย์ยังใช้วิธีการหลอกลวงในรูปแบบใหม่ โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และการปราบปราม ประเทศไทยและทั่วโลกจึงต้องร่วมมือกันคิดก้าวข้ามวิธีการของขบวนการค้ามนุษย์ เพื่อหาวิธีการป้องกันและเท่าทันกลุ่มผู้ค้ามนุษย์ให้มากยิ่งขึ้น นายกรัฐมนตรีขอให้ทุกหน่วยงานดำเนินงานอย่างจริงจังในทุกมิติอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม
ด้านการดำเนินคดีและบังคับใช้กฎหมาย ควรมีการปราบปรามผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ และขบวนการลักลอบขนคนเข้าเมืองอย่างเด็ดขาดและจริงจัง โดยเฉพาะการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง..."