คลายสงสัยโลกโซเชียล? ทำไมไม่รวบ "น้ำอุ่น" ตั้งแต่ในห้องคอนโด

กรณีการเสียชีวิตของ นางสาว ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือ ลัลลาเบล พริตตี้สาว บนโซฟาในล็อบบี้คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านตลาดพลู ซึ่งเป็นที่พักของ นายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือน้ำอุ่น พริตตี้บอย โดยภาพวงจรปิดระบุชัดเจนทั้งก่อนเกิดเหตุ และระหว่างอุ้มลงมาจากคอนโดมิเนียม ว่าอยู่กับ นายรัชเดช เป็นคนสุดท้าย กระทั่งทางตำรวจขออนุมัติหมายจับนายรัชเดช และนำกำลังไปยังคอนโดมิเนี่ยมแห่งนี้

ล่าสุด เมื่อกลางดึก พลตำรวจตรี นิตินันท์ เพชรบรม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังตำรวจสืบสวนนครบาล8 ตำรวจนครบาลบุคคโล และตำรวจสืบสวนสอบสวนนครบาล นำหมายจับศาลอาญาธนบุรี ไปยังคอนโดมิเนี่ยมดังกล่าว เพื่อควบคุมตัวนายรัชเดช หรือน้ำอุ่น พริตตี้บอย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ในข้อหา "หน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย,พาไปเพื่อกระทำอนาจาร และกระทำอนาจาร" โดยเจ้าตัวอยู่ภายในห้องพักแต่ไม่ยินยอมออกมาจากห้องจากนั้นทางตำรวจจึงเดินทางออกจากคอนโดมิเนี่ยม กระทั่งพบเบาะแสว่านายรัชเดช หรือน้ำอุ่น ได้เรียกให้ผู้เป็นแม่มารับที่ห้องพัก ก่อนจะพาขึ้นรถยนต์ออกจากคอนโดมิเนี่ยม ไปจอดเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนรัชดาฯ-ท่าพระ ตำรวจจึงเร่งติดตามไปจนสามารถควบคุมตัวได้ และนำตัวสอบสวนที่กองกำกับการสืบสวนนครบาล 8 โดยมี พันตำรวจเอก มานพ สุคนธนพัฒน์ รองผู้บังคับการนครบาล8 มาร่วมทำการสอบปากคำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างคุมตัวผู้ต้องหามายังกองกำกับการสืบสวนนครบาล 8 ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดโดยมีตำรวจควบคุมตัวมาอย่างแน่นหนา และไม่อนุญาติสื่อมวลชนเข้าไปยังด้านในแต่อย่างใด และทางตำรวจขอปฏิเสธให้ข้อมูลรายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบปากคำตลอดทั้งคืน เจ้าตัวมีความเครียด พร้อมปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตามจะมอบให้ทาง พลตำรวจโท สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรสจนครบาล เป็นผู้แถลงผลการจับกุมครั้งนี้ ในเวลา 08.00 น. ที่สถานีตำรวจนครบาลบุคคโลต่อไป

ต่อมาเวลา 05.00 น. ตำรวจสืบสวนนครบาล 8 คุมตัว นายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือน้ำอุ่น พริตตี้บอย ออกจากกองกำการตำรวจนครบาล 8 ไปสอบสวนต่อที่ สถานีตำรวจนครบาลบุคคโล เพื่อทำการสอบสวนอย่างละเอียด ตลอดจนรอทางผู้บังคับบัญชามาร่วมทำการสอบสวนก่อนจะทำการแถลงผลการจับกุมต่อไป

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังถูกสอบปากคำนานกว่า 5 ชั่วโมง ระหว่างที่คุมตัวนายรัชเดช เจ้าตัวสวมแว่นกันแดดสีดำและปิดผ้าปิดปากโดยไม่ตอบคำถามใดๆต่อสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวแต่อย่างใดทั้งนี้บนโลกออนไลน์ได้มีหลายคนสงสัยว่า ทำไมจับน้ำอุ่นตั้งแต่อยู่ในคอนโดสำหรับกรณีการจับกุม นายรัชเดช หรือ น้ำอุ่น วงศ์ทะบุตร ได้ที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง ย่านริมถนนรัชดาฯ - ท่าพระ หลังพบข้อมูลว่ามารดาของนายรัชเดช ขับรถยนต์มารับ ทั้งนี้การจับกุมดังกล่าวมีข้อสงสัยว่าทำไมถึงปล่อยให้น้ำอุ่น ออกจากคอนโดได้ 
ซึ่งหากพิจารณาตามข้อกฎหมายอาญา มาตรา 81 ที่ว่า ไม่ว่าจะมีหมายจับหรือไม่ก็ตาม ห้ามมิให้จับในที่รโหฐาน เว้นแต่จะได้ทำตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายนี้อันว่าด้วยการค้นในที่รโหฐาน 
มาตรา 92 ห้ามมิให้ค้นในที่รโหฐานโดยไม่มีหมายค้นหรือคำสั่งของศาล เว้นแต่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจเป็นผู้ค้น และในกรณีดังต่อไปนี้ 
(1) เมื่อมีเสียงร้องให้ช่วยมาจากข้างในที่รโหฐาน หรือมีเสียงหรือพฤติการณ์อื่นใดอันแสดงได้ว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นในที่รโหฐานนั้น 
(2) เมื่อปรากฏความผิดซึ่งหน้ากำลังกระทำลงในที่รโหฐาน 
(3) เมื่อบุคคลที่ได้กระทำความผิดซึ่งหน้า ขณะที่ถูกไล่จับหนีเข้าไปหรือมีเหตุอันแน่นแฟ้นควรสงสัยว่า ได้เข้าไปซุกซ่อนตัวอยู่ในที่รโหฐานนั้น 
(4) เมื่อมีพยานหลักฐานตามสมควรว่าสิ่งของที่มีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยการกระทำความผิดหรือได้ใช้หรือมีไว้เพื่อจะใช้ในการกระทำความผิด หรืออาจเป็นพยานหลักฐานพิสูจน์การกระทำความผิดได้ซ่อนหรืออยู่ในนั้น ประกอบทั้งต้องมีเหตุอันควรเชื่อว่าเนื่องจากการเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้สิ่งของนั้นจะถูกโยกย้ายหรือทำลายเสียก่อน 
(5) เมื่อที่รโหฐานนั้นผู้จะต้องถูกจับเป็นเจ้าบ้าน และการจับนั้นมีหมายจับหรือจับตามมาตรา 78
ในบางกรณีเจ้าพนักงานจะเข้าทำการจับกุมบุคคลตามหมายจับ โดยบุคคลตามหมายจับนั้น มีฐานะเป็นเพียงผู้อาศัยในที่รโหฐาน หรือภายในบ้านเท่านั้น กรณีนี้เจ้าพนักงานจะสามารถเข้าทำการจับกุมบุคคลตามหมายจับได้ ก็ต่อเมื่อเจ้าบ้านให้ความยินยอม หรือเป็นกรณีที่มีการกระทำความผิดซึ่งหน้า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 92(2)  
 ซึ่งจากกฎหมายดังกล่าวจะได้คำตอบว่าทำไมตำรวจถึงไม่สามารถเข้าไปจับนายรัชเดช ได้ในห้องชุด คอนโดมิเนียม ดังกล่าวได้ อีกทั้งเวลาการจับกุมนั้นเป็นเวลากลางคืนอีกด้วย ทั้งนี้หากนายรัชเดชไม่ออกมาจากคอนโด เจ้าหน้าที่จะต้องรอให้ถึงเวงลา 06.00 น. จึงจะสามารถดำเนินการจับกุมได้ โดยจะต้องขอหมายค้นจากศาลเพื่อจะเข้าจับกุมบนในห้องชุดคอนโด อย่างไรก็ดีการเข้าค้นจะต้องดำเนินการในช่วงเวลา 06.00 น. - 18.00 น. เท่านั้น หากเป็นกรณีเข้าตรวจค้นในช่วงเวลาที่กำหนด แต่ยืดเยื้อก็สามารถดำเนินการล่วงเลยเวลา 18.00 น. ได้ แต่ต้องมีเหตุอันสมควร ส่วนกรณีพื้นที่เป็นนิติบุคคล เจ้าหน้าที่สามารถขอความร่วมมือกับทางนิติบุคคลดังกล่าวได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง