พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต กล่าวว่า ภายหลังตำรวจ กก.1 บก.ปคบ.ได้รับร้องเรียนจากประชาชนผู้เสียหายรวมกว่า 626 ราย ว่า ร้านแหลมเกตจัดโปรโมชั่นทานอาหาร 27 รายการอย่างไม่จำกัดในราคาถูก โดยคิดค่าอาหารเป็นรายหัวคนละ 888 บาท และโฆษณาทางเฟซบุ๊กกับเว็บไซต์ของร้านชื่อ www.laemgate.net รวมถึงไลน์ @laemgate นอกจากนี้ทางร้านยังได้จำหน่ายบัตรรับประทานอาหาร เช่น "โปรราชาทะเลบุฟเฟต์" ชุดละ 880 บาท "โปรนาทีทองมาแล้วจ้า" ชุดละ 2,020 บาท "โปรแฟนพันธุ์แท้" ชุด 3,000 บาท โดยต้องจองคิวออนไลน์และโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ต้องหา ซึ่งระยะแรกไม่มีปัญหา
พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต กล่าวต่อว่า โปรโมชั่นดังกล่าวเป็นที่ดึงดูดผู้คนให้มาซื้อบัตรทานอาหารจำนวนมาก แต่ปรากฎว่าเมื่อได้เข้าไปรับประทานอาหารแล้วพบว่ามีรายการอาหารไม่ตรงตามที่โฆษณาและต้องชำระเงินค่าอาหารเพิ่ม ขณะที่ผู้เสียหายบางรายที่ได้ซื้อวอชเชอร์ไว้แล้วกลับเข้าไปรับประทานไม่ได้ โดยทางร้านอ้างเหตุผลต่างๆ ไม่สามารถคืนเงินให้กับผู้เสียหาย จนกระทั่งปิดร้านหลบหนีไป รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 5 ล้านบาท
ทางบก.ปคบ.ได้รับเรื่องร้องทุกข์ จึงตั้งชุดทำงานสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมประสานป.ป.ง. เพื่อไล่ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และได้สอบปากคำผู้เสียหายหลายราย จนกระทั่งขอศาลอนุมัติออกหมายจับนายอภิชาต หรือนายโจม และกรรมการบริหารบริษัทอีกราย ในฐานความผิดร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิดคุณภาพปริมาณในสินค้าหรือบริการด้วยการโฆษณาด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ก่อนจับกุมนายนายอภิชาต ซึ่งให้การปฏิเสธ ก่อนส่งตัวฝากขังศาลอาญา พร้อมค้านประกันตัวในชั้นสอบสวน และกำลังติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิดอีกรายมาดำเนินคดี
พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ว่าจ้างคอลเซ็นเตอร์ ให้โฆษณาขายวอชเชอร์ดังกล่าวจนมีผู้ซื้อ 22,067 ราย นับได้แล้วกว่า 3 แสนที่นั่ง ซึ่งเมื่อขยายการตรวจสอบจำนวนเงินจากผู้ซื้อทั้งหมด รวมคนที่ยังไม่แจ้งความแล้วกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังไล่ติดตามเส้นทางการเงินทั้งหมด โดยพบว่าผู้ต้องหายังนำเงินไปใช้ผ่อนชำระค่ารถยนต์ ค่าคอนโดมิเนียมและค่าบ้าน จนล่าสุดมีเงินเหลือเพียง 90 บาทเท่านั้น
พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ฝากเตือนว่า ปัจจุบันมีกลุ่มมิจฉาชีพในลักษณะขายโปรโมชั่นราคาถูกแบบนี้มีแนวโน้มที่จะรุนแรงมากขึ้น ทั้งการซื้อตั๋วเครื่องบิน หรือจองห้องพัก แนะนำว่าหากประชาชนต้องการซื้อโปรโมชั่นใดๆ ต้องสอบถามข้อมูลไปยังต้นทางเสมอ เช่น สั่งจองที่พัก ก็ให้สอบถามไปยังโรงแรมเจ้าของดังกล่าว เพราะแม้จะซื้อในงานอีเวนท์ต่างๆ ก็ไม่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซนต์ ซึ่งหากยังมีผู้เสียหายในคดีนี้รายอื่นๆ ทั้งผู้ที่ขายวัตถุดิบให้กับร้านและได้รับเช็คเด้ง หรือผู้ซื้อวอชเชอร์ที่ยังไม่แจ้งความ ก็สามารถมาพบตำรวจที่บก.ปคบ.ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รวบ! เจ้าของ "แหลมเกตุ" บุฟเฟ่ต์อาหารทะเลชื่อดัง โฆษณาเท็จ
- นักธุรกิจร้องปคบ.เอาผิดเจ้าของโครงการสร้างคอนโดฯหรู
- ปคบ.ตรวจยึดเครื่องสำอางผิดกฎหมายหลายรายการ กลางห้างดังย่านพระราม9
- "เวียร์" รับ ให้กำลังใจ "เบลล่า" หลังถูก ปคบ. เรียกสอบ