สังคมแบบไทยๆ ทหาร คือ ดุลอำนาจของนักการเมือง หากนักการเมืองใช้อำนาจเกินเมื่อไหร่ เท่ากับเปิดประตูค่ายให้ทหารออกมา
อย่ายั่ว อย่าหาเรื่อง อย่าทะเลาะ อย่านิรโทษกรรมสุดซอย อย่าประท้วงข้างถนน อย่าปิดสถานที่ราชการ อย่ากวักมือเรียกทหาร
หาก 5 ปีที่แล้ว นักการเมืองพรรคเพื่อไทยไม่ใช้อำนาจในสภามากจนเกินที่สังคมจะรับได้ และพรรคประชาธิปัตย์ไม่เลือกใช้หนทางนอกสภาแก้ปัญหาผ่านร่างทรงสุเทพ อีกทั้งพรรคขนาดกลางไม่นิ่งเฉยรอเข้าข้างคนชนะ ไฉนเลยทหารจะออกมาได้?
คนไทยต้องไม่ลืม ว่าใครทำอะไรไว้ อย่าถามว่าจะมีรัฐประหารอีกไหม? แต่จงถามว่าจะทำเหมือนที่ผ่านมาอีกหรือเปล่า?
เมื่อไหร่ที่นักการเมืองทำเพื่อประชาชน ทหารทำเพื่อปกป้องประเทศชาติ ก็ทางใครทางมัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ ต่างคนต่างเดิน
ส่วนคนที่ว่าผมเข้าข้างทหาร คงเข้าใจผิด ผมชื่อชูวิทย์ ไม่ได้ชื่อสุเทพ วันที่ผมติดคุก 3 รอบ ถูกขังเดี่ยว 3 วัน ที่กรมสารวัตรทหาร ถูกอายัดทรัพย์ ลูกชายจับใบแดงไปเป็นทหารเกณฑ์ และอีกหลายอย่าง หากผมมี พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ หนุนอยู่ข้างหลังจริง ทำไมถึงโดนได้ขนาดนี้?
ผมแบ่งแยกความเป็นเพื่อนกับหน้าที่ออก ทำอะไรผิด ก็รับผิดในสิ่งที่ทำ ไม่ต้องไปร้องขอให้เพื่อนลำบากใจ ที่บอกว่าผม กับ ผบ.ทบ. ท่านนี้ รู้จักสนิทสนม ผมก็เคยยืนยันว่ารู้จักกันจริง แต่ต่างคนต่างทำหน้าที่ ไม่มีขอกันเรื่องอื่น
ความเป็นเพื่อนมันห้ามกันไม่ได้ อย่างเดียวที่เคยขอ คือ ขอกินเหล้า และท่านก็ชงเหล้าให้ในฐานะเพื่อน ไม่ได้ชงให้ในฐานะ ผบ.ทบ.