หนุ่มขับรถชน คุณลุงวัย 61 พบตร. ยันไม่เจตนาชน-ไม่หลบหนี

กรณีมีการแชร์คลิปเหตุการณ์ขณะที่ชายคนหนึ่งเดินอยู่ในซอยเพชรเกษม 52แขวงบางหว้า เขต ภาษีเจริญ กรุงเทพ ก่อนจะมีรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นวีออส สีดำขับพุ่งชนชายคนดังกล่าวอย่างแรง ก่อนจะไถลไปด้านหน้า ทราบภายหลังว่าผู้บาดเจ็บคือนายนที ตรีประทีปศิลป์ วัย 61 ปี พิการทางหูกำลังรักษาตัวอยู่ที่รพ.เพชรเกษม2

เมื่อเวลา10.00น.วันที่11 สิงหาคม ชาวบ้านในละแวกจุดเกิดเหตุ ซอยเพชรเกษม52 ใกล้โรงเรียนอนุบาลบ้านสวน แขวงบางหว้า เขต ภาษีเจริญ กทม. ซึ่งภายในซอยดังกล่าวคับแคบ และมีรถยนต์จอดหน้าบ้าน ชาวบ้านเปิดเผยว่า ในซอยดังกล่าวมีปริมาณรถค่อนข้างเยอะ เนื่องจากมีโรงเรียนอยู่ในซอย และช่วงเย็นทุกวันจะมีคนมาเดินเเละวิ่งออกกำลังกายโดยในวันเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ แต่เห็นหลังเกิดเหตุชาวบ้านได้ให้ข้อมูลว่า คนขับรถวีออส เป็นชายวัยกลางคนได้เดินลงมาจากรถ และพยายามโทรศัพท์เรียกกู้ภัย และช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนที่รถรพ.จะมารับตัวไป

โดยชาวบ้านคนเดิม บอกอีกว่า หลังเกิดเหตุชายคนขับรถวีออส ยังอยู่ที่เกิดเหตุและพูดคุยกับคนละแวกนั้นว่ามีคนที่ออกกำลังกายและเห็นเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุบอกว่าผู้เสียหายเดินเซ และมาล้มลงบนรถตน นั่นจึงทำให้ชาวบ้านละแวกนั้นที่ได้ยินไม่เชื่อ จึงทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กัน จนลูกชายผู้เสียหายมาขอดูกล้องวงจรปิดจากบ้านพลเมืองดี ซึ่งอยู่ในจุดเกิดเหตุ จนเกิดการเผยแพร่และแชร์คลิปเกิดเหตุกันจำนวนมาก

      ขณะที่เจ้าของบ้านเจ้าของกล้องวงจนปิดดังกล่าว กล่าวว่าตนไม่ได้รู้จักกับฝ่ายใดเป็นพิเศษ ทราบเพียงว่าชายที่ขับรถวีออส มีบ้านอยู่ในซอยเดียวกันเท่านั้น แต่ที่ออกมาเผยแพร่คลิป เนื่องจากลูกชายผู้เสียหายมาขอดูกล้องวงจรปิด และตนเห็นว่าภาพที่ปรากฏเป็นเรื่องจริง โดยไม่ต้องใช้คำพูดใด

ต่อมาที่สน.ภาษีเจริญ เมื่อเวลา11.00น.  นายอภิรักษ์ (ขอสงวนนามสกุล) กลิ่นเกษร อายุ 48ปีซึ่งรับเป็นผู้ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นวีออสสีดำ หมายเลขทะเบียน ฆศ 6209 กรุงเทพมหานคร คันเกิดเหตุพร้อม ยอมรับว่า ในวันเกิดเหตุตนเพิ่งออกเวรจากงานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านฝั่งธน และรู้สึกเพลียมาก ขณะขับรถเข้าปากซอย52เพื่อเข้าบ้านยังรู้สึกตัว แต่พอกลางซอยตนวูบหลับในไป ลืมตามาอีกครั้งหนึ่งพบผู้บาดเจ็บอยู่หน้ารถแล้ว ยืนยันไม่ได้มีเจตนาชน ไม่ได้หลบหนี และหลังเกิดเหตุตนเป็นคนลงมาดู เรียกรถพยาบาลและปฐมพยาบาลด้วย รวมทั้งรีบมาลงบันทึกประจำวันไว้พร้อมระบุจะดูแลผู้บาดเจ็บจนกว่าจะหายดี

"กระแสโจมตีในโซเชียลว่าผมไม่รับผิดชอบ และด่าทอต่างๆนานา ทำให้ผมรู้สึกอึดอัดใจ และเสียใจมาก เพราะผมพยายามทำทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุด รับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นคนผิดเอง แต่กลายเป็นว่าถูกสังคมมองว่าเป็นคนไม่ดีอีก" นายอภิรักษ์ ระบุ

ขณะที่ร.ต.ท.เดชาธร ทะเดช รองสารวัตรสอบสวน สน.ภาษีเจริญ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนี แต่ก็อยู่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บตลอด โดยผู้ก่อเหตุยอมรับว่าหลับใน และวูบไป ยืนยันไม่ได้เล่นโทรศัพท์ขณะขับรถ เมื่อลืมตามาพบชายคนดังกล่าวอยู่หน้ารถแล้ว ซึ่งขณะนั้นเข้าใจว่าโดนตัดหน้ารถ ทำให้ฝ่ายผู้เสียหายอาจจะเข้าใจผิด จนนำไปสู่การวิจารณ์ในโลกโซเชียล แต่ล่าสุดทั้ง2ฝ่ายได้มายืนยันว่าไม่ติดใจเอาความกัน เนื่องจากทางคู่กรณีรับปากจะดูแลค่ารักษาพยาบาลให้ ทั้งนี้เตรียมแจ้งข้อหาผู้ก่อเหตุเบื้องต้นว่า ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจะต้องรอผลวินิจฉัยจากแพทย์มาประกอบการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีกด้วย