การไฟฟ้าฯเผยสาเหตุไฟไหม้ร้านส้มตำเกิดจากสายขาดช็อตจริง

วันที่ 16 ก.ค.60 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายสมชาย ทองอินทร์ นายช่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคระดับ 7 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาบางคล้า ที่ได้เดินทางเข้ามาดูยังจุดเกิดสายไฟแรงสูงระเบิด และตกลงมาใส่หลังคาร้านค้าอาหารส้มตำปลาเผา ว่า ในที่เกิดเหตุพบว่าที่ด้านบนยอดสูงสุดของเสาไฟฟ้าแรงสูงในบริเวณจุดเกิดเหตุนั้น พบว่ามีสายโอเวอร์เฮด หรือสายล่อฟ้า ที่ขึงเป็นเส้นเดี่ยวอยู่ที่ด้านบนยอดสุดของปลายเสานั้น ได้ขาดหายไปถึงสองช่วงของต้นเสาไฟ จึงทำให้เชื่อว่า สาเหตุที่เกิดการระเบิดของสายส่งไฟฟ้าแรงสูงนั้น เกิดจากสายล่อฟ้าได้ขาดตกลงมาใส่สายเมน และแตะเข้ากับที่สายเมนส่งกระแสไฟฟ้าเฟส B ที่ส่งกำลังไฟมาจากสถานีจ่ายไฟฟ้าบางคล้า ไปจนสุดเขตอำเภอ และชนเข้ากับเขตการส่งจ่ายไฟฟ้าของ กฟภ.ฉะเชิงเทรา ที่บริเวณวัดหัวสวน ขนาดแรงดัน 22,000 โวลต์ หรือ 22 Kv ตามมาตรฐานการจ่ายไฟฟ้าทั่วไปทั้งอำเภอ
 เมื่อสายโอเวอร์เฮดที่มีสักเป็นกราวด์แตะเข้าที่สายเมนของเฟส B ที่อยู่ตรงกลางของคานเสาไฟฟ้า จึงทำให้เกิดการอาร์กเป็นประกายไฟขึ้น และลุกเปลือกฉนวน (ซึ่งปกติจะไม่ติดไฟหากไม่มีการลุกไหม้นำ) ไปตามแนวของสายไฟ ที่สายล่อฟ้าตกลงมาพาดผ่าน แต่ยังไม่ทราบว่าสายโอเวอร์เฮดหรือสายล่อฟ้านี้ขาดตกลงมาได้อย่างไร ส่วนสายล่อฟ้าเส้นที่ขาดตกลงมานั้นก็เป็นสายลวดสลิงที่มีเนื้อเป็นโลหะหรือเนื้อลวดเหล็ก ขนาด 35 ตารางมิลลิเมตร ไม่ใช่สายอลูมิเนียมที่จะขาดได้ง่ายกว่า และขนาดก็ตรงตามสเปคของการไฟฟ้าที่ใช้กันตามปกติทั่วไป ไม่ใช่สายที่มีขนาดเล็กหรือไม่ได้มาตรฐานแต่อย่างใด
ส่วนการที่มีชาวบ้านบอกว่ามีการระเบิด และลุกไหม้ที่สายไฟแห่งนี้บ่อยครั้งนั้น ไม่แน่ใจว่ามีการแจ้งไปให้แก่ทาง กฟภ.บางคล้า ทราบด้วยหรือไม่ เพราะตนไม่แน่ใจ เนื่องจากในวันที่เกิดเหตุนั้นๆ อาจจะไม่ตรงกันกับเวรที่ตนเข้าอยู่ โดยตนเพิ่งเคยพบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นครั้งแรก
สำหรับต้นเหตุที่เกิดขึ้นก็ชัดเจนแล้วว่า เกิดจากเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงตามรายทางนี่เอง จะมองไปเป็นอย่างอื่นก็คงไม่ได้ เนื่องจากในที่เกิดเหตุนั้นมีสายตกลงมาและมีการลุกไหม้ที่ปลายสายจริง และยังมีหลายคนที่เห็นเหตุการณ์ จึงยอมรับว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากสายส่งไฟฟ้าแรงสูงช็อตกันกับสายโอเวอร์เฮดที่ตกลงมาจริง เพราะมีอุปกรณ์ของทางการไฟฟ้าชำรุดเสียหายตกอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย
ส่วนสาเหตุหรือต้นตอที่ทำให้สายล่อฟ้าขาดตกลงมานั้น ยังไม่ทราบแน่ชัด จึงต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องที่มีความชัดเจนในเรื่องนี้เข้ามาชี้แจงด้วยตนเองอีกครั้ง สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดในขณะนี้ ได้มีการนัดให้ทางผู้เสียหายทั้งสองราย ได้เข้าไปเจรจากับทาง กฟภ.บางคล้า แล้ว ยังที่สำนักงาน กฟภ.บางคล้า ในวันจันทร์ที่จะเปิดทำการนี้