กลาโหมสหรัฐยืนยันปกป้องพันธมิตรจากโสมแดง

นางดานา ไวท์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐกล่าวว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐอยู่ในสถานะที่เตรียมพร้อมรับมือกับการคุกคามของเกาหลีเหนือ พร้อมให้คำมั่นว่ากระทรวงกลาโหมจะปกป้องประเทศพันธมิตรของเราด้วย ซึ่งรวมถึงเกาหลีใต้และญี่ปุ่น

ด้านนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ออกแถลงการณ์ประณามเกาหลีเหนือเช่นกัน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทั่วโลกใช้มาตรการเพื่อหยุดยั้งการคุกคามจากเกาหลีเหนือนายทิลเลอร์สันกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวของเกาหลีเหนือถือเป็นการเพิ่มระดับการคุกคามต่อสหรัฐและกลุ่มประเทศพันธมิตรของสหรัฐ รวมทั้งภูมิภาคต่างๆและประเทศทั่วโลก สหรัฐและประเทศอื่นๆทั่วโลก ไม่สามารถยอมรับสถานะเกาหลีเหนือที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ในขณะนี้ได้

ขณะที่นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกแถลงการณ์ประณามเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธข้ามทวีปพร้อมระบุว่า การกระทำดังกล่าวของเกาหลีเหนือ ละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) และทำให้สถานการณ์ระหว่างประเทศตกอยู่ในอันตราย

นอกจากนี้ เลขาธิการยูเอ็นยังเรียกร้องให้ผู้นำเกาหลีเหนือยุติการกระทำอันยั่วยุ และขอให้ดำเนินการตามข้อตกลงระหว่างประเทศ

ขณะที่รายงานข่าวระบุว่ายูเอ็นเอสซี เตรียมจัดประชุมในวันนี้ เพื่อหารือกันเกี่ยวกับการยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ

ทั้งนี้ เกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) เป็นครั้งแรก ภายหลังจากที่ได้ยิงขีปนาวุธไปตกในน่านน้ำเขตเศรษฐกิจพิเศษของญี่ปุ่นในช่วงเช้าวานนี้ ซึ่งนับเป็นความคืบหน้าสำคัญของเกาหลีเหนือในการพัฒนาอาวุธทางยุทธศาสตร์เพื่อเสริมสร้างแสนยานุภาพของกองทัพ และเปลี่ยนแปลงดุลอำนาจในคาบสมุทรเกาหลี

สำนักข่าวกลางของเกาหลีเหนือ รายงานว่า ขีปนาวุธที่ทดสอบคือขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่น "ฮวาซอง-14" โดยในระหว่างการทดสอบนั้น ขีปนาวุธได้พุ่งสู่ระดับความสูง 2,802 กิโลเมตรจากพื้นดิน และเคลื่อนที่ไปในอากาศรวมระยะทาง 933 กิโลเมตร ก่อนไปตกในทะเล

ด้านกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นระบุว่า ขีปนาวุธฮวาซอง-14 ของเกาหลีเหนือมีพิสัยทำการไกลเพียงพอที่จะสามารถโจมตีเป้าหมายในรัฐอลาสกาของสหรัฐได้