พ.ต.อ.นิธิ เปิดเผยว่า ขณะนี้การตรวจหลักฐานดำเนินไปค่อนข้างที่จะสมบูรณ์แล้ว ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุ 3 ครั้ง คือวันที่ 14 ,17 และ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา รวมถึงการตรวจสภาพรถที่เกิดเหตุทั้ง 2 คันด้วย โดยได้มีการลงบันทึกรายงานการตรวจไว้อย่างละเอียดแล้ว ส่วนในเรื่องการคำนวนความเร็วของรถยนต์เบนซ์ขณะที่ชนรถยนต์เก๋งฟอร์ด นั้น ต้องรอให้ทางทีมพนักงานสอบสวนส่งคลิปจากกล้องหน้ารถของพยานที่เป็นไฟล์จริงมาเสียก่อน เพื่อป้องกันการคลาดเคลื่อนในการคำนวนความเร็ว ซึ่งคาดว่าจะได้รับภายในบ่ายวันนี้(21 มี.ค.)
พ.ต.อ.นิธิ กล่าวอีกว่า ทางพิสูจน์หลักฐานได้มีการดูคลิปที่มีในเว็บไซต์ยูทูปแล้ว ซึ่งมีการคำนวณตั้งแต่จุดเอซึ่งเป็นจุดที่หน้ารถเบนซ์โผล่เข้ามาในคลิป และจุดบี ซึ่งเป็นจุดสุดท้าย โดยเป็นจุดที่รถยนต์เบนซ์ชนรถยนต์เก๋งฟอร์ด จากนั้นได้มาดูภาพแต่ละเฟรม ก่อนคำนวณออกมาเป็นความเร็วขณะที่ชน ซึ่งคาดว่าน่าจะมีความเร็วมากกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยมีความเร็วมากกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแน่นอน แต่ถ้าจะให้ชัดเจนต้องรอไฟล์ภาพจริงจากพนักงานสอบสวน เพื่อมาคำนวณวิเคราะห์กับผู้เชี่ยวชาญ ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุก็ไม่พบรอยเบรคแต่อย่างใด ส่วนจะมีกล้องในรถยนต์เบนซ์หรือไม่ รวมถึงรายละเอียดต่างๆ ภายในรถ เจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยัง บริษัท เบนซ์ ประเทศไทย ให้เข้ามาตรวจสอบ พร้อมกับให้ข้อมูลเพิ่มเติมในวันที่ 23 มี.ค.นี้
ต่อมาเวลา 14.30 น. วันเดียวกัน พนักงานสอบสวนได้นำหลักฐานเป็นคลิปจากกล้องหน้ารถของ นายสุพชัย ภู่วงศ์ ที่เป็นทั้งเจ้าของคลิป และเป็นพยานในคดีดังกล่าว มามอบให้เจ้าหน้าที่ยังศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 เพื่อดำเนินการตรวจสอบความเร็วรถคันเกิดเหตุประกอบสำนวนคดีต่อไป
รายงานข่าวระบุว่า การตรวจสอบหาความเร็วขณะเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้เพื่อต้องการดูเจตนาของผู้ต้องหาว่า มีเจตนา หรือตั้งใจชนรถของผู้เสียชีวิตหรือไม่ เนื่องจากในคลิปเหตุการณ์ของพยานไม่ปรากฏการเบรค และไม่มีร่องรอยเบรคในจุดเกิดเหตุ หากพบว่าตั้งใจขับพุ่งชนก็อาจจะมีแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ข้อหาเจตนาขับรถชนจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ซึ่งไม่ต่างกับข้อหาเจตนาฆ่า