svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เส้นทาง "ชูวิทย์" จอมแฉ

15 ตุลาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

12 ปี กับการต่อสู้คดีรื้่อบาร์เบียร์ ทำให้ "ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์" กลายเป็นบุคคลในระดับตำนาน จากเจ้าพ่ออ่างอาบอบนวด กลายเป็นสส.ผู้ทรงเกียรติในสภา จนได้รับฉายา "จอมแฉ" สร้างสีสันให้กับแวดวงการเมืองไทย

ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ เกิด 29 สิงหาคม พ.ศ. 2504 เกิดและเติบโตในย่านเยาวราช ครอบครัวทำธุรกิจนำเข้าและผลิตเสื้อผ้ายีนส์ยี่ห้อ ฮาร่า จบมัธยมศึกษาตอนปลายที่ โรงเรียนเทพศิรินทร์ จบปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโท มหาวิทยาลัยซานดิเอโก สหรัฐอเมริกา
หลังจบการศึกษาจากสหรัฐอเมริกา ชูวิทย์ หันมาทำธุรกิจของตัวเอง เปิดอาบอบนวดชื่อ "วิคทอเรีย ซีเคร็ท" และขยายกิจการจนเป็นเจ้าของอาบอบนวด 6 แห่ง ในเครือเดวิสกรุ๊ป และก่อตั้งมูลนิธิต้นตระกูลกมลวิศิษฎ์ ให้การสนับสนุนก่อสร้างป้อมยามที่พักของตำรวจตามแยกไฟแดง ก่อนเกิดความขัดแย้งกัน และออกมาเปิดเผยเรื่องส่วย กลายเป็นเรื่องเกรียวกราว จนได้รับฉายาว่า "เสี่ยอ่าง" หรือ "จอมแฉ" และถูกดำเนินคดีข้อหาค้าประเวณีเด็กหญิง อายุต่ำกว่า 18 ปี ในสถานอาบอบนวด
ชูวิทย์ เป็นที่รู้จักเมืองกลางปี 2546 เมื่อปรากฏเป็นข่าวว่าหายตัวไปอย่างลึกลับ ขณะมีคดีรื้อบาร์เบียร์ที่ ถนนสุขุมวิท ซึ่งมีคู่ความเป็นตำรวจนครบาล ไม่กี่วันต่อมาชูวิทย์ ก็ปรากฏตัวข้างถนน ย่านชานเมือง ด้วยสภาพอิดโรย และได้แฉว่า ถูกตำรวจอุ้มตัวไป จากนั้น ชูวิทย์ ก็ปรากฏเป็นข่าวต่อเนื่องแลออกมาแฉ พฤติกรรมของตำรวจ แทบรายวัน ทั้ง การรีดไถ่ รับส่วย
ก่อนหันเหชีวิต เข้าสู่ถนนการเมือง สมัครผู้ว่าฯ กทม. เมื่อ 29 สิงหาคม 2547 จากนั้นปี 2548 เป็น ส.ส.พรรคชาติไทย แต่ถูกตัดสิทธ์ เพราะเป็นสมาชิกพรรคไม่ครบ 90 วันจึงพ้นสภาพ ก่อนลาออกจากเมื่อปี 2549 ไปลงสมัคร ส.ว.แต่ก็ถูกตัดสิทธิ์ เพราะยังไม่พ้นสส. ครบ 1 ปี จากนั้นชื่อเสียงของ ชูวิทย์ เริ่มหายเงียบไป และปรากฏเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อ หิ้วข้าวผัด กับ โอเลี้ยงไปเยี่ยม 3 อดีต กกต.ที่ถูกพิพากษาจำคุก คดีทุจริตการเลือกตั้ง
ปี 2551 ชูวิทย์ ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.อีกครั้ง แต่ไม่ได้รับเลือก กระทั่ง 2 ตุลาคม ปีเดียวกัน ได้ไปออกรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 มี วิศาล ดิลกวณิช เป็นพิธีกร หลังจบช่วง ชูวิทย์ เข้าทำร้ายร่างกาย วิศาล โดยอ้างว่าโมโห ที่ถูกถามคำถามไม่เป็นธรรม แสดงกิริยาไม่ให้เกียรติ
อีก 2 ปีถัดมา ชูวิทย์ ตั้งพรรครักประเทศไทย และลงเลือกตั้งทั่วไปในปี 2554 ได้คะแนนเกือบ 1 ล้าน ได้ ส.ส. เข้าสภาถึง 4 คน ซึ่งในฐานะฝ่ายค้าน เดินหน้าแฉ บ่อนการพนัน สถานอบายมุข จนทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องออกมาตอบโต้ กลายเป็นวิวาทะกลางสภา จนได้รับฉายาเป็น "คู่กัดแห่งปี" ประจำปี 2555
ต้นเดือนธันวาคม 2556 เกิดวิกฤติการเมืองในสภา พรรคประชาธิปัตย์มีมติให้ สส.ลาอก ชูวิทย์ ได้ตัดสินใจลาออกด้วย เพราะสภาทำงานต่อไปไม่ได้ ก่อนที่ อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ จะประกาศยุบสภา 9 ธันวาคม 2556 และวันนี้ศาลฏีกาเลือนอ่านคำพิพากษา ออกไปเป็น 28 มกราคมปีหน้า ชนิดเหนือความหมาย หลัง ชูวิทย์ ยอมรับสารภาพ เส้นทางชีวิตของ "จอมแฉ" นับจากนี้จึงขึ้นอยู่กับคำคัดสินของศาล.

logoline