กรมอุทยานฯหนักใจ "นกแต้วแล้วทัองดำ"เสี่ยงสูญพันธุ์สูง

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายนิพนธ์ โชติบาล บอกว่า ได้รับรายงานจากสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าเกี่ยวกับสถานการณ์นกแต้วแล้วท้องดำ ที่อาศัยอยู่ในเขตที่ราบลุ่มต่ำของเขานอจู้จี้ เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าเขาประบางคราม จ.กระบี่ว่าอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วงมาก หลังจากการเข้า ไปสำรวจประชากรนก ในเดือนเมษา ยน และเดือนพฤษภาคมปีนี้ว่าไม่ได้ ยินเสียงร้องของนก และเจอตัวนกแล้วซึ่งขณะนี้อาจต้องส่งทีมนักวิจัยเข้าไปปูพรมตรวจสอบประชากรนกอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
นักวิจัยจากกรมอุทยาน ระบุว่าก่อนหน้านี้กรมอุทยานฯ เคยสำรวจประชากรนกครั้งสุดท้ายปี 2555 โดยใช้วิธีการเปิดเสียงล่อนก และนับเสียงนกตัว ผู้ที่ขานรับ เพราะการร้องของนกเพื่อประกาศเขตแดนและหากมีตัวผู้ก็จะมีตัวเมียอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งตอนนั้นนับได้ 13 ตัว และก็จัดว่าหายากอยู่แล้วเนื่องจากพื้นที่อาศัยของนกชนิดนี้ อยู่ขอบป่าที่ลุ่มต่ำที่มีการบุกรุกพื้นที่ เพื่อปลูกสวนยางพารา และมีการโปรโมทให้คนที่ท่องเทึ่ยวในสระมรกตจำนวนมาก ขณะที่การสำรวจด้วยวิธีเดิมในช่วงเดือนเมษายน และเดือนพฤษภาคม น่าตกใจว่าไม่ได้ยินเสียงหรือเจอตัวนกแม้แต่ตัวเดียว
ทั้งนี้ยั งไม่ได้ฟันธงว่าประชากรนกแต้วแล้วท้องดำอยู่ในภาวะสูญพันธุ์ 100% แต่ยอมรับว่าซีเรียสมาก เพราะนกชนิดนี้เป็น1 ใน15ชนิดสัตว์ป่าสงวนของไทย ที่อยู่ในสถานภาพใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง
"นักวิจัย เตรียมสรุปรายงานถึงนายนิพนธ์ และจะขอตั้งโครงการเร่งด่วนลงไปปูพรมสำรวจประชากรนกชนิดนี้ เพื่อให้ทราบสถานภาพที่ชัดเจน" นายกล่าว