ฝึกผู้อพยพ ให้เป็นเชฟ

วินดี้ เก็ตบุชเซห์ หลบหนีสงครามกลางเมืองในไลบีเรียในยุคเก้าศูนย์ออกมาพร้อมกับน้องชายและแม่ พวกเธอพักอยู่ที่ค่ายผู้อพยพในกาน่านานถึง 15 ปี และครอบครัวนี้เดินทางมาถึงออสเตรเลียในปี 2551 แต่ก็พบว่าการหางานทำที่นี่ช่างยากนัก
ลอว์เรนซ์ น้องชายของเธอยังหางานไม่ได้ ส่วนตัวเธอได้งานในร้านอาหารฟาสต์ฟู๊ดแต่ก็บอกว่า ต้องเจอกับปัญหาการเหยียดผิว
6 ปีต่อมา ครอบครัวนี้เริ่มมองเห็นอนาคต จากองค์กรการจ้างงานพิเศษ ที่นำเสนอโครงการฝึกอบรมสำหรับผู้อพยพเรื่องศิลปะการปรุงอาหาร และการต้อนรับแขก
Bright Employment ก่อตั้งเมื่อปี 2556 โดย Tim Davies ผู้จัดการกองทุน hedge fund ที่ใช้เวลาเป็นสิบปีในการงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในลอนดอน นิวยอร์ก และจีนเขาใช้เงินของตัวเองในการสนับสนุนโครงการนี้ โดยหวังที่จะทำให้อัตราการจ้างงานในหมู่ผู้อพยพที่ออสเตรเลียมีการพัฒนาดีขึ้น ซึ่งเขาบอกว่าคนเหล่านี้หลายคน ก็หวังที่จะทุ่มเทให้กับสังคมออสเตรเลีย คนเหล่านี้ต้องการหลุดพ้นจากการใช้เงินสวัสดิการจากรัฐบาล พวกเขาอยากมีงานทำเต็มเวลา และทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ
วินดี้ และน้องชาย เมื่้อเร็วๆ นี้ ก็เพิ่งจบการฝึกอบรมจาก Bright Employment และตอนนี้ลอว์เรนส์ ก็กำลังทำงานกับร้านอาหารชื่อดังในซิดนี่ย์
เขาบอกว่ามันเป็นงานที่ท้าทาย แต่ก็เป็นงานที่ให้ผลตอบแทน การได้ทำงานที่นี่มันน่าทึ่งมาก บางทีอาจจะเป็นที่ที่ดีที่สุดที่เขาเคยทำงานมา ทุกครั้งที่เขากลับบ้าน และแม่ถามว่าวันนี้เป็นอย่างไร เขามักจะยิ้ม แล้วก็ตอบว่า มันดีจริงๆ ผู้ร่วมงานก็ดี และเป็นมิตร
ส่วนเจมส์ คิดแมน หัวหน้าเชฟที่ Sydney Cafe บอกว่าลอว์เรนซ์ เป็นคนกระตือรือร้นดี และทำนายว่า เขาจะมีความก้าวหน้าในสาขาอาชีพนี้
ส่วนวินดี้ ก็มีความทะเยอทะยานสูงเช่นกัน เธอหวังว่า สักวันหนึ่งจะเธอจะมีร้านอาหารเป็นของตนเอง
บรรดาเชฟชื่อดังในซิดนี่ย์ ต่างก็สละเวลามาเข้าร่วมในโครงการนี้หลายคน หนึ่งในนั้นก็คือ Ty Bellingham ที่ลาออกจากการเป็นเชฟของร้านอาหารไทยชื่อดังในปี 2557 เพื่อมาร่วมในโครงการ
เขาช่วยฝึกอบรมนักศึกษาเรื่องการครัวเพื่อการพาณิชย์ในซิดนี่ย์ ทั้งในทักษะเรื่องการตระเตรียมอาหาร การปรุง และการดูแลต้อนรับลูกค้า เขาบอกว่า นี่คือโอกาสที่ยิ่งใหญ่ ในการตอบแทนสังคม และยังเป็นการช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมร้านอาหารด้วย
และสำหรับผู้อพยพเอง พวกเขาก็ไม่เพียงแต่ได้รับความช่วยเหลือเท่านั้น แต่ก็ยังให้บางสิ่งตอบแทนโครงการนี้ด้วย เพราะในแต่ละวัน บรรดานักเรียนจะฝึกปรุงอาหารกลางวันมากกว่า 100 ชุด และพวกมันจะถูกนำออกขายในราคาแค่ชุดละ 130 บาท หรือไม่ก็นำไปบริจาคให้กับคนไร้บ้าน