svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

นายกฯ สั่งขยายประกันตนตาม ม.40

10 ธันวาคม 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นายกรัฐมนตรี สั่งขยายเวลารับสมัครผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เป็นของขวัญปีใหม่ให้ผู้สูงอายุ ด้านเลขาธิการสำนักงานประกันสังคมรับลูก เตรียมแก้กฎหมายปลดล็อกทันที

นางปราณิน มุตตาหารัช เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เปิดเผยว่า ภายหลังการปิดรับสมัครผู้ประกันตนมาตรา 40 สำหรับผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา และมีประชาชนให้ความสนใจสมัครเข้ามาเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถสมัครได้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด

รัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี จึงมีนโยบายขอให้กระทรวงแรงงานไปดำเนินการแก้พระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.) กำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. 2554 ในมาตรา 40 เพื่อขยายระยะเวลาการเปิดรับสมัครผู้ประกันตนมาตรา 40 ให้กับประชาชนที่มีอายุเกิน 60 ปี ที่ตกค้างเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ในเรื่องนี้ สปส.ได้หารือกับฝ่ายกฎหมายและได้แจ้งว่าจะขยายระยะเวลาการรับสมัครให้อีก 10 วัน ภายหลังการแก้ไข พ.ร.ฎ.ดังกล่าวเสร็จสิ้น ทั้งนี้จะดำเนินการให้เรียบร้อยก่อนเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงนี้เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน

สำหรับประกันสังคมมาตรา 40 แยกเป็น 5 ทางเลือกได้แก่ ทางเลือกที่ 1 จ่ายเงินสมทบ 100 บาท/เดือน โดยจ่ายเอง 70 บาท และรัฐจ่ายสมทบ 30 บาท ให้ความคุ้มครองในกรณีประสบอันตราย เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย
ทางเลือกที่ 2 จ่ายเงินสมทบ 150 บาท/เดือน โดยจ่ายเอง 100 บาท และรัฐจ่ายสมทบ 50 บาทให้ความคุ้มครองในกรณีประสบอันตราย เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย ชราภาพ
ทางเลือกที่ 3 จ่ายสมทบ 200 บาท/เดือน โดยจ่ายเอง 100 บาท รัฐสมทบ 100 บาท ให้ความคุ้มครองกรณีชราภาพ

ทางเลือกที่ 4 เป็นทางเลือกที่ 1 และทางเลือก 3 (1+3) จ่ายเงินสมทบ 300 บาท/เดือน โดยจ่ายเอง 170 บาท และรัฐสนับสนุน 130 บาทให้ความคุ้มครองในกรณีประสบอันตราย เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย และชราภาพ

และทางเลือกที่ 5 เป็นทางเลือกที่ 2 และทางเลือก 3 (2+3) จ่ายเงินสมทบ 350บาท/เดือน โดยจ่ายเอง 200 บาท และรัฐสนับสนุน 150 บาทให้ความคุ้มครองในกรณีประสบอันตราย เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย และชราภาพ โดยสปส.สรุปยอดผู้สมัครประกันสังคมมาตรา 40 เบื้องต้นพุ่งกว่า 2.2 ล้านคน

logoline