svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

โจรงัดร้านรับซื้อของโบราณ มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท

02 พฤศจิกายน 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

2 พ.ย.57 - โจรงัดร้านรับซื้อของโบราณย่านประเวศ กวาดแบงก์เก่า-เงินพดด้วงมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 2 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายพงษ์เนตร นิลสิทธิ์สถาพร อายุ 48 ปี เจ้าของร้านรับซื้อของเก่าประเภทธนบัตรโบราณ เหรียญเงินพดด้วง และพระเครื่อง ชื่อร้าน"แบงค์โบราณ" ตั้งอยู่เลขที่ 223 ปากซอยประดิพัทธ์ 21 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. ว่าถูกคนร้ายงัดร้านเข้ามาขโมยกล่องเก็บธนบัตรโบราณ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7-9 พดด้วงเงินพดด้วงทอง และเหรียญทองคำ รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ไปจากร้าน เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา จึงนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้นครึ่ง ชั้นล่างเปิดเป็นร้านรับซื้อ-จำหน่าย ประเภทธนบัตรโบราณ เหรียญเงินพดด้วง และพระเครื่อง มีนายพงษ์เนตร เจ้าของร้านรอให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะเปิดเผยว่า ตนเปิดร้านแห่งนี้มานานประมาณ 11 ปี โดยจะเปิดร้านตั้งแต่ช่วงเวลา 09.00-17.00 น.ทุกวัน ต่อมาเวลาประมาณ 07.50 น.ของวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังจากตนไปส่งลูกที่โรงเรียนเสร็จ ก็กลับเข้ามาที่ร้านเพื่อรอเปิดร้านตามปกติ โดยตนได้เปิดประตูด้านหลังร้านเข้าไป แต่ไม่ได้สังเกตว่า กุญแจล็อกบานเลื่อนประตูหน้าร้านถูกคนร้ายตัดหายไป
นายพงษ์เนตร กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตนจึงได้เข้ามาตรวจสอบบริเวณที่ด้านหลังเคาเตอร์โชว์ของเก่า ก็พบว่า กล่องสแตนเลสที่ภายในใส่ธนบัตรเก่า และของเก่าอื่นๆ รวมมูลค่าประมาณกว่า 3 ล้านบาท ได้หายไปจากชั้นวางด้านหลัง จำนวน 7-8 กล่อง จึงรีบโทรศัพท์สอบถามไปที่ลูกชายอายุ 14 ปี ว่าได้มาหยิบกล่องดังกล่าวไปดูหรือไม่ เนื่องจากลูกชายชอบนำธนบัตรและเหรียญเก่าไปศึกษาดูเวลาว่าง แต่ลูกชายได้บอกกับตนว่าได้นำกล่องดังกล่าวไปดูจริงในช่วงเวลา 15.00-17.00 น. ของวันที่ 30 ต.ค.แล้วได้นำมาวางเก็บไว้ที่เดิมก่อนปิดร้าน ตนจึงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในร้านซึ่งมีอยู่ 2 ตัว ก็พบว่า ลูกชายได้นำมาวางคืนที่เดิมแล้วตามที่เจ้าตัวยืนยัน
นายพงษ์เนตร กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นเวลาประมาณ 09.00 น. ลูกจ้างตนก็เดินทางมาที่ร้านเพื่อจะเปิดร้านตามปกติ จึงมาขอลูกกุญแจตนไปไขเปิดประตูบานเลื่อนหน้าร้าน แต่ลูกจ้างสังเกตเห็นว่า แม่กุญแจที่ล็อคประตูบานเลื่อนด้านหน้าร้านหายไป จึงมาถามตนว่า เข้ามาทางด้านหน้าประตูหรือไม่ ตนจึงบอกไปว่า เข้ามาทางประตูด้านหลัง เมื่อมาตรวจสอบลูกกุญแจร้านก็พบว่าหายไป 2 ดอก จึงเชื่อว่ากล่องเก็บธนบัตรนั้นถูกคนร้ายงัดร้านเข้ามาขโมยไปแน่นอน จึงรีบไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในช่วงกลางคืน ก็พบว่าสามารถจับภาพคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30-40 ปี ขณะเข้ามาหยิบกล่องสแตนเลสดังกล่าวออกจากร้านไป ในช่วงเวลา 03.08 น. โดยใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 2 นาทีเท่านั้น ทั้งนี้ปกติหลังปิดร้านจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวมาขายหน้าร้านจนถึงเวลา 04.00 น.ทุกวัน แต่วันเกิดเหตุร้านก๋วยเตี๋ยวไม่ได้มาขาย เพราะปิดไป 3 วัน จึงสบโอกาสให้คนร้ายเข้ามาลงมือ
"ทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปนั้น รวมแล้วประมาณ 40 รายการ มีธนบัตรโบราณตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 ถึงรัชกาลที่ 9 จำนวน 150-200 ใบ มูลค่าตั้งแต่ 2,000-150,000 บาท ซึ่งแต่ละใบมีรูปถ่ายยืนยันเลขธนบัตรไว้ชัดเจน พดด้วงเงิน-ทองคำ พระเลี่ยมทอง 2-3 องค์ เหรียญทองคำ เข็มกลัดพิมพ์นูนเนื่องในวาระรัชกาลที่ 5 ครองราชย์เสมอรัชกาลที่ 2 มูลค่ากว่าแสนบาท ล็อตเตอรี่เลขเรียงครบชุด ตั้งแต่ 000000-999999 รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 3 ล้านบาท แต่เท่าที่มีรูปถ่ายเป็นหลักฐานเก็บไว้นั้น มูลค่ารวมแล้วประมาณ 1.5 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.พิเชฎฐ์ ชาตะโชติ พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ โดยช่วงเย็นวันนี้จะนำสำเนาเอกสารรูปถ่ายทรัพย์สินที่หายไปมอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามจับกุมคนร้าย อย่างไรก็ตาม หากใครแจ้งเบาะแสคนร้ายจนนำไปสู่การจับกุมตัวได้จะมีรางวัลนำจับให้ 1 แสนบาท" นายพงษ์เนตร กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.สิทธิชัย ธัญญาบาล สว.สส.สน.บางซื่อ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ภาพวงจรปิดจากผู้เสียหายมาแล้ว ซึ่งเบื้องต้นพบว่า คนร้ายเป็นชายวัยกลางคนอายุประมาณ 30-40 ปี รูปร่างท้วม ใช้เวลาก่อเหตุเพียงแต่ 2 นาที โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุว่า คนร้ายมีทั้งหมดกี่คน รวมทั้งใช้ยานพาหนะและเส้นทางใดในการหลบหนี นอกจากนี้ จะรอให้ทางผู้เสียหายนำรูปพรรณของทรัพย์สินที่หายไปทั้งหมดมามอบให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จากนั้นจะนำไปตรวจสอบตามแหล่งรับซื้อของเก่าว่ามีผู้ต้องสงสัยรายใดนำมาขายบ้างหรือไม่

logoline