
ผีตาโขน เป็นการละเล่นชนิดหนึ่ง ในงานบุญหลวงซึ่งเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีของ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย นอกจากเพื่อความสนุกสนานแล้ว ชาวบ้านยังเชื่อว่าเป็นพิธีขอฝนอย่างหนึ่ง จุดเด่นของงาน อยู่ที่เอกลักษณ์การแต่งกาย โดยผู้เล่นจะสวมใส่หน้ากากผี ที่ทำด้วยหวดนึ่งข้าวเหนียวตกแต่งทาสีสวยงาม และแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่ทำด้วยเศษผ้ามาต่อกัน มีช่องให้มือลอดออกมาได้ ผีตาโขนจะถืออาวุธประจำตัวและมีหมากกะแหล่งซึ่งเป็นโลหะคล้ายกระดิ่งรูปสี่เหลี่ยม ผูกติดเอว
กิจกรรมในงานเริ่มต้นแต่รุ่งเช้าของงานวันแรก คือพิธีเบิกพระอุปคุต และจะมีขบวนแห่เจ้าพ่อกวน เจ้าแม่นางเทียม คณะพ่อแสน นางแต่ง ผีตาโขนทั้งหลายรวมทั้งผีตาโขนเล็ก ผีตาโขนใหญ่ จะเข้าร่วมขบวนแห่พระเวสสันดรเข้าเมือง มีขบวนแห่บุญบั้งไฟร่วมด้วยโดยในแต่ละหมู่บ้านจะจัดแต่งขบวนของต้นเข้าประกวดกันเป็นที่คึกคักสนุกสนาน
นอกจากนี้ ยังมีการประกวดการเต้นผีตาโขน และการแสดง งานประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน เป็นส่วนหนึ่งของงานบุญหลวงซึ่งถือว่าเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีของท้องถิ่นโดยรวมเอางานบุญพระเวส( ฮีตเดือนสี่ ) และงานบุญบั้งไฟ(ฮีตเดือนหก) เข้าไว้เป็นงานบุญเดียวกัน
ทั้งนี้ งานบุญพระเวสนั้นเป็นงานบุญที่จัดขึ้นเพื่อฟังเทศน์มหาชาติ ทั้ง 13 กัณฑ์ซึ่งถือว่าได้รับอานิสงส์แรงกล้าบันดาลให้พบพระศรีอริยเมตไตรย์ในชาติหน้า ส่วนงานบุญบั้งไฟเป็นงานบุญที่จัดขึ้นเพื่อบูชาอารักษ์หลักเมืองและถือเป็นประเพณีการแห่ขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล
ในงานบุญหลวงนี้จะมีกองทัพผีตาโขนออกวาดลวดลายทั่วเมืองด่านซ้ายร่วมสร้างความสนุกสนานครื้นเครงในขบวนแห่ด้วย และการแต่งแต้มหน้ากากผีตาโขนเล็กสำหรับเป็นของที่ระลึก เพื่อนำเสนอศิลปวัฒนธรรมอันงดงามของชุมชนแห่งนี้
กิจกรรมที่น่าสนใจนั้น ได้เริ่มขึ้นในกลางดึกของวันที่ 26 มิ.ย.2558ได้แก่ พิธีเบิกพระอุปคุต พิธีบายศรีสู่ขวัญเจ้าพ่อกวน-เจ้าแม่นางเทียม ขบวนแห่ผีตาโขน ขบวนแห่เจ้าพ่อกวน-เจ้าแม่นางเทียมจากความเชื่อของชาวอีสานที่ว่า งานบุญใหญ่ใด ๆ มักจะมีมารมาคอยผจญ จึงต้องเชิญพระอุปคุตผู้มีฤิทธิ์มากมาช่วยปราบมาร ดังนั้นจึงต้องมีพิธีเบิกพระอุปคุต ก่อนงานบุญหลวงทุกครั้ง
โดยปกติพิธีเบิกพระอุปคุตนั้น จะเริ่มตอนใกล้เช้ามืดประมาณตี 3 หรือ ตี 4 ในการทำพีธีนั้นคณะของแสนทุกคนจะนำอุปกรณ์ที่เตรียมไว้ มีมีด ดาบ หอก ฉัตร ถือเดินนำขบวนจากวัดโพนชัยไปที่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน เพื่อเชิญพระอุปคุต คือก้อนกรวดสีขาวในแม่น้ำ เล่าขานกันว่า เมื่อมีงานบุญใหญ่โตมักจะมีพวกมารผจญ จึงต้องเชิญพระอุปคุต มาเพื่อช่วยปราบมารให้ราบคาบ เมื่อได้พระอุปคุตแล้วจะนำใส่หาบ เคลื่อนขบวน กลับมาทำพิธีที่หออุปคุต วัดโพนชัยในตอนรุ่งเช้า จะมีขบวนแห่ไปบ้านเจ้าพ่อกวน เพื่อทำพิธี บายศรีสู่ขวัญให้แก่ เจ้าพ่อกวน และเจ้าแม่นางเทียม
เมื่อได้เวลาอันสมควรเจ้าพ่อกวน เจ้าแม่นางเทียม คณะแสน นางแต่งบรรดาผีตาโขนใหญ่ ผีตาโขนน้อยทั้งหลาย ตลอดจนขบวนเชิ้ง จะร่วมกันเคลื่อนขบวนแห่ไปยังวัดโพนชัย เวียนรอบพระอุโบสถ3รอบ ซึ่งจะมีผีตาโขนเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เที่ยวหลอกล้อผู้คนที่มาร่วมงานอย่างสนุกสนาน
วันที่สองหรือ 27 มิ.ย.2558 นอกจากจะมีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายวิโรจน์ จิวะรังสารค์ ประธานในพิธีฯแล้ว ยังมีพิธีแห่พระเวสจะเป็นวันที่สมมติว่า พระเวสสันดรเสด็จนิวัติสู่พระนคร โดยมีผีต่าง ๆ คอยตามขบวนแห่มาส่งเสด็จ บรรดาผีตาโขนจะเริ่มเล่นกันตั้งแต่เช้า ส่วนใหญ่จะรวมเล่นกันอยู่ที่วัดโพนชัย วาดลวดลายเต้นตามจังหวะดนตรีที่สนุกสนานครื้นเครงจนถึงเวลาอันเชิญพระเวสสันดรและนางมัทรีเข้าเมือง ( แห่พระเวส ) เมื่อขบวนแห่ถึงวัดโพนชัย จะเดินเวียนรอบโบสถ์ 3รอบ
ในระหว่างเคลื่อนขบวนจะมีการโปรยกัลปพฤกษ์ ซึ่งก็คือเหรียญเงิน เหรียญทอง ทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะแย่งกันเก็บเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตัวเองเป็นที่สนุกสนาน หลังจากนั้นบรรดาผู้เล่าผีตาโขนจะนำชุดและอุปกรณ์ที่ใช้เล่นไปทิ้งลงแม่น้ำหมัน ถือเป็นการลอยเคราะห์ให้ไหลล่องไปกับแม่น้ำ แต่ในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเก็บไว้ใช้ประดับบ้านหรือเก็บไว้ใช้อีกในปีหน้าวันที่สาม หรือ 29 มิ.ย.2558 มีงานเทศน์มหาชาติ จะเป็นการฟังเทศน์มหาชาติตั้งแต่เช้ามืดเพื่อกล่อมเกลาจิตใจและได้อานิสงส์ผลบุญอันแรงกล้า เป็นอันเสร็จพิธี