เที่ยวชมศิลปะ ชื่นชมความงามอย่างไทยที่ “สิปปาลัยทองถนิม”
ใครที่มีเวลาสักหนึ่งวัน และชื่นชอบในศิลปะความงามแบบไทย ต้องไม่พลาดไปเยือน “สิปปาลัยทองถนิม” ดูสักครั้ง ที่นี่เป็นหอศิลป์จัดแสดงศิลปะเครื่องทองไทย พิกัดย่าน จรัญสนิทวงศ์ กรุงเทพฯ นี่เอง
“สิปปาลัยทองถนิม” ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อสืบทอดศิลปะการทำเครื่องทองไทย ตามแบบฉบับช่างทองหลวงที่มีมาตั้งแต่โบร่ำโบราณในสมัยอยุธยา ไม่ให้สูญหาย
ผลงานโดดเด่นของ "ทองถนิม" ได้สร้างผลงานมาสเตอร์พีซมาแล้วหลายชิ้น ได้แก่
- เครื่องประดับชุดไทยพระราชนิยม ที่อยู่บนเรือนร่างนางนพมาศ “เบลล่า ราณี” ในงานลอยกระทงปี 2563 ของไอคอนสยาม
- ผลงานเครื่องประดับทูลเกล้าถวายสมเด็จพระราชินีฯ แห่งราชอาณาจักรภูฏาน สั่งทำโดยลูกค้ากิตติมศักดิ์
- ผลงานพุทธบูชาที่บรรจุอยู่ในพระธาตุเจดีย์องค์สำคัญต่างๆ ของประเทศไทย
นอกจากนี้ยังได้สร้างความฮือฮาในวงการเครื่องประดับไทย ออกแบบมงกุฎไทยร่วมสมัย ชื่อว่า “ศิราภรณ์แห่งจันทรา” หรือ “มงกุฎแห่งดวงจันทร์” ที่สวมเดินแบบโดยนางเอกชื่อดัง "โบว์ เมลดา สุศรี" ในฐานะนางนพมาศ งานลอยกระทงปี 2565 ไอคอนสยาม นับเป็นมงกุฎที่เรียกความสนใจได้เป็นอย่างมาก เพราะนำลวดลายความเป็นไทยมาออกแบบผสมผสานเข้ากับมงกุฎรูปทรงแบบตะวันตกได้เป็นอย่างดี เกิดเป็นผลงานมงกุฎไทยร่วมสมัยที่แตกต่างอย่างเลอค่า เมื่อหญิงใดได้สวมมงกุฎชิ้นนี้ ก็จะงดงามราวดั่งเจ้าหญิงเทพนิยายที่หลุดออกมาจากวรรณคดีไทย
นอกจากการผสมผสานระหว่างไทย-สากลที่ลงตัวแล้ว คอนเซ็ปต์การออกแบบได้ถูกคิดขึ้นมาอย่างลึกซึ้งเช่นเดียวกัน "คุณสิทธิศักดิ์ คูหาวิไล" ผู้ก่อตั้งแบรนด์ทองถนิม เล่าให้ฟังว่า
“ศิราภรณ์แห่งจันทราชิ้นนี้ สื่อถึงตำนานรักเทพพระจันทร์กับนางโรหิณี ลวดลายบนมงกุฎเป็นลวดลายดอกบัว เป็นอาวุธของเทพพระจันทร์ ประดับด้วยพลอยมูนสโตน อันเป็นหินแห่งดวงจันทร์ มงกุฎจึงเป็นตัวแทนของพระจันทร์ คุณโบว์ เมลดา นางนพมาศเปรียบดั่งนางโรหิณี ทั้งสองมาบรรจบพบกัน ดั่งคำมั่นสัญญาของเทพพระจันทร์ที่มีให้กับนางโรหิณี เพื่อพิสูจน์รักที่มีต่อกัน เราจะมาพบกันที่ตรงกลางของฟากฟ้า ในทุกปีของคืนวันเพ็ญเดือน 12”
“ศิราภรณ์แห่งจันทรา ไม่เพียงแต่ถูกออกแบบขึ้นมาอย่างประณีต หากแต่ยังถูกประดิษฐ์ขึ้นมาอย่างวิจิตรและบรรจง มงกุฎทองคำชิ้นนี้ ใช้ช่างฝีมือด้วยกันทั้งหมดมากกว่า 10 คน ประกอบด้วย
- ช่างออกแบบ
- ทีมช่างดัดลวด
- ทีมช่างสลักดุน
- ช่างเชื่อมประกอบ
- ช่างอัญมณี
- ช่างฝัง
เทคนิคต่างๆ ที่ใช้เป็นเทคนิคผสมผสานทั้งเทคนิคโบราณแบบดั้งเดิม ที่ถูกสืบทอดมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ผนวกเข้ากับเทคนิคการทำเครื่องประดับแบบประยุกต์ แต่ทั้งนี้ยังคงเอาไว้ซึ่งศิลปะการทำทองด้วยมือตามแบบช่างทองหลวงสมัยโบราณ”
นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของวงการเครื่องประดับไทย ที่ได้นำเอาความเป็นสากลมาสอดแทรกเข้ากับความเป็นไทย เพื่อส่งต่อศิลปะไทยสร้าง Soft Power ให้แพร่หลายสู่สายตาของนานาชาติ
ท่านใดที่ต้องการชมผลงานศิลปะแบบไทยแท้ สามารถเยี่ยมชมได้ที่หอศิลป์ “สิปปาลัยทองถนิม” โทร 095-254-2939
www.facebook.com/tongthanim
ไลน์ไอดี @tongthanim
