svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Health

ผิวลูกน้อยแพ้ง่ายในช่วงหน้าหนาว พ่อแม่ควรดูแลอย่างไร

อากาศหนาว กระตุ้น "ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง" ในลูกน้อยได้ง่าย เนื่องจาก ผิวแห้งในเด็ก สูญเสียความชุ่มชื้น แนะวิธีดูแลผิวลูกน้อยที่ถูกต้อง โดยหลีกเลี่ยงน้ำร้อนและทาโลชั่นหลังอาบน้ำเพื่อลดปัญหาผิวอักเสบ

KEY

POINTS

  • อากาศหนาวและแห้งเป็นสาเหตุหลักที่ดึงความชุ่มชื้นออกจากผิวบอบบางของทารก ทำให้เกิดปัญหาผิวแห้ง แตก และเสี่ยงต่อผื่นภูมิแพ้ผิวหนังได้ง่าย
  • ควรทามอยส์เจอไรเซอร์ให้ลูกทันทีหลังอาบน้ำภายใน 3 นาทีเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้น และหลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนหรือแช่น้ำนานเกินไป
  • หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นอื่นที่ทำให้ผิวระคายเคือง เช่น สบู่หรือผงซักฟอกที่รุนแรง เสื้อผ้าเนื้อหยาบ และน้ำหอม
  • หากดูแลเบื้องต้นแล้วผื่นไม่ดีขึ้น มีอาการแดง คันมาก หรือลุกลาม ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง

เมื่ออากาศเริ่มเย็นลง หลายพื้นที่สัมผัสได้ถึงความแห้งและลมหนาวที่แรงขึ้น ซึ่งแม้ผู้ใหญ่บางคนอาจเพียงรู้สึกผิวแห้งตึงเล็กน้อย แต่สำหรับ “ผิวลูกน้อย” ที่ยังบอบบางและมีเกราะปกป้องผิวไม่สมบูรณ์ อากาศลักษณะนี้อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิด ผื่นผิวหนังอักเสบและผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ได้ง่ายกว่าปกติ กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี จึงออกมาเตือนให้ผู้ปกครองดูแลผิวลูกอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ

ทำไมหน้าหนาวถึงทำให้ผิวลูกน้อยแห้งและเป็นผื่นง่าย?

นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ อธิบายว่า อากาศหนาวและแห้งจะดึงความชุ่มชื้นออกจากผิวหนังอย่างรวดเร็ว หากผิวสูญเสียน้ำมากเกินไป ผิวจะเริ่มแห้ง แตก ระคายเคือง และนำไปสู่ภาวะผิวหนังอักเสบได้ง่าย สำหรับเด็กเล็กที่ผิวยังบอบบาง การไม่ดูแลผิวอย่างเหมาะสม เช่น ไม่ทาครีมหรือปล่อยให้ผิวแห้งเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดผื่นแดงและผื่นหนา จนลุกลามเป็น ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) ได้

เด็กที่เป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังเรื้อรังอยู่แล้ว จะถูกกระตุ้นให้มีผื่นเห่อมากขึ้นเมื่อเจออากาศเย็น แม้ไม่ได้สัมผัสสารก่อภูมิแพ้หรือมลภาวะอื่น ๆ ก็ตาม

ผิวลูกน้อยแพ้ง่ายในช่วงหน้าหนาว พ่อแม่ควรดูแลอย่างไร

จุดที่มักพบผื่นภูมิแพ้ในเด็กแต่ละช่วงวัย

นพ.อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กฯ ระบุว่า อาการของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังสามารถเกิดได้ในหลายตำแหน่ง โดยจะต่างกันตามอายุ ได้แก่

  • เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี: มักพบผื่นแดงและผิวแห้งบริเวณ แก้ม หน้าผาก คอ แขน-ขาด้านนอก ข้อมือ และข้อเท้า
  • เด็กโต: มักขึ้นที่ ข้อพับแขน ข้อพับขา เท้า และข้อเท้า
  • ผู้ใหญ่: พบผื่นในตำแหน่งเดียวกับเด็กโต แต่มีโอกาสเรื้อรังและผื่นหนามากขึ้น หากปล่อยไว้นานอาจทำให้ผิวหนาตัวและมีรอยดำตามมา

ปัจจัยทางพันธุกรรมก็มีบทบาทสำคัญ หากในครอบครัวมีประวัติ ภูมิแพ้ผิวหนัง ภูมิแพ้จมูก หรือหอบหืด เด็กก็มีโอกาสเสี่ยงต่อผื่นภูมิแพ้ผิวหนังมากขึ้น

ผิวลูกน้อยแพ้ง่ายในช่วงหน้าหนาว พ่อแม่ควรดูแลอย่างไร

วิธีดูแลผิวลูกน้อยให้ปลอดภัยในหน้าหนาว

พญ.นุชนาฎ รุจิเมธาภาส แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังเด็ก แนะนำว่าผู้ปกครองสามารถช่วยลดปัญหาผื่นแพ้และผิวแห้งได้ด้วยวิธีดังนี้

✔ 1. เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างสม่ำเสมอ

ทาโลชั่นหรือมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับเด็กทันทีหลังอาบน้ำภายใน 3 นาที เพื่อกักเก็บน้ำไว้ในผิวให้ได้มากที่สุด

✔ 2. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนและแช่น้ำนาน

น้ำร้อนจะชะล้างไขมันตามธรรมชาติที่เคลือบผิวเด็ก ทำให้ผิวยิ่งแห้งและระคายเคืองง่าย ควรใช้น้ำอุ่นปกติและอาบไม่นาน

✔ 3. ดูแลริมฝีปากที่แตก

ใช้ลิปบาล์ม ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ทาบาง ๆ และควรห้ามเด็กเลียริมฝีปากเพราะทำให้แห้งกว่าเดิม

✔ 4. เลี่ยงปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ

เช่น น้ำหอม ผงซักฟอกที่ระคายเคือง เสื้อมที่มีเนื้อผ้าหยาบ หรืออากาศแห้งมาก ควรใช้เครื่องเพิ่มความชื้นหากจำเป็น

✔ 5. หากผื่นไม่ดีขึ้น ควรพาไปพบแพทย์

ถ้าผื่นมีลักษณะลุกลาม แดงมาก คันมาก หรือเริ่มหนาตัว ควรพบแพทย์ผิวหนังเพื่อประเมินและให้การรักษาเฉพาะทาง

ผิวลูกน้อยแพ้ง่ายในช่วงหน้าหนาว พ่อแม่ควรดูแลอย่างไร

สรุป: หน้าหนาวต้องดูแลผิวลูกเป็นพิเศษ

อากาศเย็นและแห้งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวลูกน้อยสูญเสียความชุ่มชื้นและเกิดผื่นภูมิแพ้ได้ง่าย การทาครีมให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงน้ำร้อน และสังเกตสัญญาณผิวแห้งตั้งแต่แรก เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยลดความเสี่ยงได้มาก หากอาการไม่ดีขึ้นหรือผื่นเป็นเรื้อรัง ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว