กูรูเรื่องแซ่บ “ตำมั่ว” มาเฟียส้มตำ รู้ลึก รู้จริง คุมทุกถิ่นเรื่องส้มตำ

กระแสอาหารไทย Soft Power ครองใจคนทั่วโลก ล่าสุดมงลงถึง 4 เมนูด้วยกัน เมื่อเว็บไซต์เทสต์แอ็ตลาส  (TasteAtlas) ที่แนะนำอาหารท้องถิ่นทั่วโลก รายงานผลจัดอันดับ 100 อันดับ “เมนูสลัดที่ดีที่สุดในโลก” ผลปรากฏว่าเมนูสลัดจากประเทศไทยเข้าวินถึง 4 เมนูด้วยกัน นั่นคือ "ส้มตำ"  "ส้มตำไข่เค็ม" "พล่ากุ้ง" และ "ยำวุ้นเส้น" 

กระแสส้มตำปังขนาดนี้ เข้าทาง “ตำมั่ว” ร้านอาหารไทย-อีสานรสแซ่บ โดยในโอกาส “ตำมั่ว” ฉลองครบรอบ 35 ปี ทางแบรนด์ปั้น New Concept เปิดตัว “มาเฟียส้มตำ รู้ลึก รู้จริง คุมทุกถิ่นเรื่องส้มตำ” เพราะตัวจริงในสมรภูมิอาหารไทย-อีสาน ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มาจากการรู้ลึก รู้จริง ในเรื่องส้มตำของทุกพื้นที่ รวมถึงการรักษาคุณภาพและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์มาอย่างสม่ำเสมอ สมกับการเป็นมาเฟียส้มตำอย่างแท้จริง

สำหรับการเปิดตัวคอนเซ็ปต์ใหม่อย่างยิ่งใหม่กับการสร้าง VDO Ads สุดไวรัลบนโซเชียล ด้วย “Hyper-Realistic Ads” เทคโนโลยี AR เพื่อโชว์ไอคอนใหม่ ดีไซน์สากและครกยักษ์ รวมถึงวัตถุดิบของส้มตำ ตำรวมกันบนตึกสามย่าน มิตรทาวน์ ใจกลางเมือง ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการโปรโมทเปิดร้านตำมั่ว ดีไซน์ใหม่ สาขาสามย่านมิตรทาวน์ ผ่านวิถีความเป็นมาเฟีย ยกแก๊งชิงความเป็นผู้รู้ลึก รู้จริง คุมทุกถิ่นเรื่องส้มตำของแทร่ จนสามารถสร้างเสียงฮือฮาและเสียงหัวเราะให้กับผู้ที่พบเห็น ตอกย้ำความเป็นมาเฟียส้มตำ คาแรคเตอร์ใหม่ที่มีความสนุกสุดล้ำ ชวนน่าติดตาม

คุณศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจแบรนด์ไทย บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) “ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 35 ปี ของแบรนด์ ตำมั่ว ก็เป็นเครื่องการันตีคุณภาพได้เป็นอย่างดี ซึ่งสมรภูมิตลาดอาหารไทย-อีสาน มีทั้งผู้เล่นหน้าเก่าที่เป็นเชนขนาดใหญ่ และผู้เล่นหน้าใหม่ที่เป็นรายเล็ก ก็ต่างดึงกลยุทธ์เด็ดออกมางัดข้อกันอย่างหนักหน่วงเพื่อให้แบรนด์ยังคงอยู่รอดในสมรภูมิเดือดนี้ ถึงแม้ว่าแบรนด์ตำมั่วจะมีข้อดีจากการเป็นผู้เล่นรายแรกๆ ในตลาดที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าและสร้างการจดจำได้ก่อนแบรนด์อื่นๆ แต่การจะทำให้แบรนด์ยังคงสามารถรักษาฐานลูกค้าเก่าให้กลับมาใช้บริการซ้ำๆ ก็ยังคงเป็นเรื่องท้าทายอยู่เสมอเช่นกัน  

นอกจากนี้ ตลาดส้มตำบน Google Trend ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีคำค้นหาเกี่ยวกับเมนูส้มตำใหม่ ๆ ที่เป็นกระแส เริ่มตั้งแต่ปีก่อนคำยอดฮิตคือ ‘ตำซั่ว’ ขณะที่ปีนี้ ‘ตำเส้น’ ก็เป็นเทรนด์ที่มาแรงในกลุ่มผู้บริโภคช่วงอายุ 18-34 ปี ข้อมูลนี้จะถูกพัฒนาเป็นหนึ่งในเมนูใหม่ครั้งนี้ด้วย

โดยสิ่งที่ทางแบรนด์ยึดมั่นมาตลอด คือการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญทั้งเรื่องคุณภาพและราคา ดังนั้น แบรนด์จึงเน้นชูคุณภาพของวัตถุดิบและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงราคาที่เข้าถึงง่าย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในทุกครั้งที่เข้ามาใช้บริการ

อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การสร้างประสบการณ์ใหม่ เพื่อสร้างการจดจำให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวาระพิเศษ ครบ 35 ปีทั้งที ต้องยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ตั้งแต่การเปิดตัวคอนเซ็ปต์ใหม่ การปรับคาแรคเตอร์ใหม่ ดีไซน์ร้านใหม่ และเมนูใหม่ ครอบคลุมทุกองค์ประกอบ

เปิด 3 ประสบการณ์ใหม่ ตอกย้ำความเป็นมาเฟีย

1 รู้ลึก รู้จริง คุมทุกถิ่นเรื่องส้มตำ ขนเมนูส้มตำใหม่ ตามสไตล์แต่ละถิ่น พร้อมขนสตอรี่มาให้เสพกันได้ ไม่ใช่แค่ส้มตำรสชาติอีสาน แต่ตำมั่วรู้ลึกถึงรสชาติส้มตำแต่ละภาค โชว์รสชาติที่ถูกต้อง กับ 9 เมนูใหม่ เผ็ชดุดัน รสชาติแบบนี้ เครื่องแน่นแบบนี้ มีที่นี่ที่เดียว พบกับ 3 เมนูไฮไลท์

• ตำมาเฟีย เผ็ด 4 ฉุน 2 จากพริก 4 ชนิด ที่ผสมกันเพื่อสร้างมิติความเผ็ดอย่างลงตัว 2 คือของกลิ่นฉุน ทั้งเมล็ดกระถิน และชะอม ที่เราใส่ลงไปให้แซ่บเกินพิกัด ทำให้เมนูนี้แซ่บซี๊ด จัดเต็มทั้งรสชาติและกลิ่นที่ออกมาอร่อยลงตัวสุด ๆ
• ตำมาเฟียทองหล่อ เห็นหน้าตาดูเหมือนหวาน ๆ ตามแบบฉบับตำไทย แต่พอทานมันก็เผ็ดจี๊ด แต่ความว้าวของเมนูนี้คือ จังหวะความเผ็ด คำแรกไม่เป็นไร คำต่อไปร้องว้าว มันอร่อยมันเผ็ดที่มันหยุดกินไม่ได้
• ตำมาเฟียไฮไซ เติมเครื่องซีฟู้ดจัดเต็ม เพราะความมาเฟียของเรามันไฮโซ กุ้ง ปู แซลมอน บวกกับความแซ่บที่เราผสมพริกและน้ำปลาร้า 2 สูตรพิเศษของตำมั่วที่อร่อยลงตัว นัวมากยิ่งขึ้น ใครเป็นสายซีฟู้ดกินของแซ่บต้องสั่งเมนูนี้เลย

และอีก 6 เมนู คือ ตำเส้นเล็กหมูยอ, ตำซั่วหมูยอ, ตำแตง สามทหาร, ซาวข้าวปุ้น, เนื้อทอด 1 นาที และย่างรวม

2 ลุคอย่างเก๋า ปรับโฉมร้านใหม่ เน้นโทนสีแดง ตกแต่งผนังด้วยลายเสือเผ่น โคมไฟที่ได้แรงบันดาลใจจากผ้าขาวม้า นีออนดัดตัวอักษร “มาเฟียส้มตำ” พร้อมกราฟฟิค และเหล็กฉลุโควทยียวนสไตล์มาเฟียขี้เล่น

3 บริการอย่างเท่ กับ Station ส้มตำ ที่ย้ายมาโชว์ให้เห็นกันฝีมือเชฟกันแบบสด ๆ หน้าร้าน

“ร้านตำมั่วถูกรีโนเวทเป็นดีไซน์ใหม่ และมีเมนูใหม่ 9 เมนู จะมีเฉพาะ 3 สาขา คือ สามย่านมิตรทาวน์, บิ๊กซีพระราม 4 และบิ๊กซีนครปฐม ซึ่งหลังจากที่แบรนด์เปิดตัวคอนเซปต์ใหม่ไปแล้วกว่า 1 เดือน ได้รับผลตอบรับดีเกินคาด ทั้ง 3 สาขา ทำให้แบรนด์สามารถขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ได้มากขึ้น ทำให้กลุ่มลูกค้าของแบรนด์ เฉลี่ยอายุ 25 - 40 ปี จากเดิมที่อยู่ช่วงอายุ 30 – 45 ปี ซึ่งยังคงเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นพนักงานออฟฟิศ

ทั้งนี้  หวังว่าการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้จะช่วยสร้างความน่าสนใจให้กับลูกค้าแฟรนไชส์ ตัดสินใจมาร่วมลงทุนได้มากขึ้นกว่าปีก่อนอย่างแน่นอน โดยสาขาที่ลงทุนเองและสาขาแฟรนไชส์ที่จะเปิดหลังจากนี้จะเปลี่ยนเป็นดีไซน์ใหม่และลงเมนูใหม่นี้ด้วย” คุณศิรุวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย