
ปัจจุบันศาสตร์การดูไพ่ยิปซีเป็นอีกหนึ่งศาสตร์การดูดวงที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เริ่มศึกษาวิธีการดูดวงไพ่ยิปซีด้วยตนเอง
ทว่าหลายคนไม่ได้ใช้ไพ่ยิปซีเพียงแค่ต้องการทำนายอนาคต แต่ยังใช้ในการเสริมสร้างกำลังใจ เพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง ตลอดจนใช้เพื่อสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้ออกมาในรูปแบบคำทำนายด้วยเช่นกัน นี่จึงแสดงให้เห็นว่าจุดประสงค์ของการดูดวงไม่ได้มีเพียงแค่อย่างเดียว ทั้งนี้มันยังถูกใช้ในจุดประสงค์อื่นๆ ที่หลากหลายตามความต้องการของแต่ละคน
ไพ่ยิปซี (Tarot) หรือที่หลายคนเรียกกันติดปากว่าไพ่ทาโรต์ ถือเป็นหนึ่งในศาสตร์การดูดวงยอดนิยมที่ผู้คนมักเลือกใช้สำหรับการทำนายอนาคต ซึ่งไพ่ยิปซีมักถูกนำมาใช้ในการทำนายหรือดูเกี่ยวกับการงาน การเงิน ความรัก ภาพรวมอนาคต และเรื่องอื่นๆ ตามความต้องการของผู้ใช้งาน โดยไพ่ยิปซีนั้นเป็นศาสตร์ที่มีความสัมพันธ์กับเรื่องดวงดาวและราศี
ไพ่ยิปซีประกอบไปด้วยไพ่ 2 ประเภท คือ ไพ่ชุดหลัก (Major Arcana) เป็นไพ่ที่มีความสัมพันธ์กับระบบดวงดาวและราศี ประกอบไปด้วยไพ่ทั้งหมด 22 ใบ ตัวอย่างไพ่ เช่น ไพ่คนโง่เขลา (The Fool), ไพ่นักบวชหญิง (The High Priestess), ไพ่ปีศาจ (The Devil) ถัดมาคือไพ่ชุดรอง (Minor Arcana) เป็นไพ่ที่ใช้ในการอ่านประกอบเสริมไปกับไพ่ชุดหลัก ประกอบไปด้วยไพ่ทั้งหมด 56 ใบ โดยจะแบ่งออกเป็น 4 ชนิดหลักๆ ได้แก่ ไพ่ไม้, ไพ่ดาบ, ไพ่ถ้วย, และไพ่เหรียญ
ด้วยความหมายของไพ่ที่มีความหมายเฉพาะเจาะจง ทำให้สายมูจำนวนมากมักจะดูดวงกันด้วยไพ่ยิปซี เนื่องจากความหมายของไพ่แต่ละใบล้วนมีความสอดคล้องกับชีวิตของผู้คน ตลอดจนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวหรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในชีวิต จึงอาจเรียกได้ว่าไพ่ยิปซีคือสัญลักษณ์ของชีวิตประจำวันของผู้คนนั่นเอง
เพราะการดูดวงไม่ใช่แค่เรื่องโชคชะตา
เมื่อเราต้องเผชิญกับปัญหาร้อยแปดพันอย่างในชีวิต การหาทางแก้ไขและจัดการปัญหาเหล่านั้นคือทางออกที่ดีที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นก็มีอีกหลายครั้งที่ปัญหายากเกินกว่าจะแก้ไขได้ การมีที่พึ่งทางใจจึงถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะช่วยให้เรารู้สึกดีมากขึ้นในวันเราอยู่ท่ามกลางปัญหา ดังนั้นจึงมีคนจำนวนไม่น้อยเลือกใช้การดูดวงเป็นตัวช่วยพวกเขา จากงานศึกษาของ เรวดี สกุลอาริยะ ในหัวข้อ ‘การพยากรณ์โชคชะตาและกระบวนการช่วยเหลือด้านจิตใจ’ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยสาเหตุในการดูดวงของผู้คนส่วนใหญ่เอาไว้ว่า หลายคนมักจะดูดวงในยามที่พวกเขาท้อแท้และสับสน จึงต้องการที่ยึดเหนี่ยวและที่พึ่งทางจิตใจ ตลอดจนเมื่อต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง พวกเขาก็มักจะใช้การดูดวงมาเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการตัดสินใจเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอนาคต อีกทั้งยังต้องการลดความกังวลที่อาจเกิดขึ้นกับเรื่องราวในอนาคตที่ยังมาไม่ถึงด้วยเช่นกัน
สอดคล้องกับความหมายของไพ่ยิปซีที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวในชีวิตประจำวัน ทำให้ไพ่ยิปซีเป็นอีกหนึ่งศาสตร์ที่ตอบโจทย์การดูดวงของหลายๆ คน ที่สำคัญยังไปกว่านั้น ยังมีผู้คนจำนวนมากที่หันมาศึกษาวิธีการและทำความเข้าใจความหมายของไพ่ เพื่อใช้สำหรับการดูดวงให้ตนเองหรือบางคนก็อาจนำไปต่อยอดสำหรับการดูดวงให้กับคนรอบตัว ดังนั้นแล้วการเปิดไพ่ยิปซีในแต่ละครั้งจึงไม่เพียงแต่จะช่วยทำนายอนาคตให้เรา ทว่ามันกลับช่วยเราในหลายๆ ด้าน
นอกจากการให้กำลังใจตนเองแล้ว ไพ่ยิปซียังสามารถช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับผู้เปิดไพ่ได้ด้วยเช่นกัน ในบางครั้งที่เราไม่แน่ใจว่าเราควรตัดสินใจอย่างไรต่อในชีวิตหรือควรจะก้าวต่อไปในเส้นทางไหนดี การเปิดไพ่ยิปซีจะช่วยให้ผู้เปิดไพ่ได้ทบทวนเรื่องที่จะตัดสินใจ และหากไพ่ที่เผยออกมามีความหมายที่ดีด้วยแล้ว ยิ่งเป็นเหมือนแรงจูงใจในการเริ่มทำสิ่งต่างๆ ของเรา ซึ่งนั้นอาจเป็นเส้นทางที่จะพาเราไปสู่ความสำเร็จก็ได้
ตัวอย่างเช่น ในวันที่เรากำลังท้อแท้และรู้สึกว่าชีวิตมืดมน การเปิดได้ไพ่พระอาทิตย์ (The Sun) จึงสามารถช่วยเยียวยาจิตใจและแรงจูงใจของเราได้ด้วย เนื่องจากไพ่ดังกล่าวให้ความหมายถึงความสดใสในชีวิตและการประสบความสำเร็จในเรื่องต่างๆ ที่คาดหวังไว้ ซึ่งเป็นการปูทางนำเราไปสู่เรื่องราวดีๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ไพ่พระอาทิตย์ถือเป็นหนึ่งในไพ่ที่มีความดีในไพ่ชุดหลัก ทั้งนี้เชื่อว่าผู้ที่เปิดได้ไพ่ใบนี้จะต้องรู้สึกและรับรู้ถึงพลังงานบวก ซึ่งจะช่วยทำให้เรารู้สึกมีกำลังใจในการเผชิญหน้ากับปัญหาต่อไป
นอกจากเรื่องการให้กำลังใจแล้ว ไพ่ยิปซียังเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตเราด้วยเช่นกัน หรือที่เรียกว่าการสะท้อนตนเอง (self-reflection) กล่าวคือ ก่อนที่เราจะทำการเปิดไพ่ จะต้องมีการนึกถึงเรื่องที่เราสงสัยหรือปัญหาใดๆ ก็ตามที่อยากให้ไพ่ช่วยตอบ นั่นเปรียบได้กับการที่ผู้เปิดไพ่ได้สังเกต วิเคราะห์ และทบทวนเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตที่ผ่านมาของตนเอง
ถึงแม้วิธีการเปิดไพ่ของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปตามความถนัด ทว่าโดยส่วนใหญ่แล้วไพ่มักจะต้องมีการเชื่อมโยงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต เรื่องราวเหตุการณ์ ณ เวลาปัจจุบัน ตลอดจนบทสรุปที่จะนำไปสู่เรื่องราวในอนาคต การดูไพ่จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีสำหรับใครก็ตามที่อยากจะเรียนรู้และสะท้อนเรื่องราวของตัวเองมากขึ้น
เมก โจนส์ วอลล์ นักอ่านไพ่ยิปซีมืออาชีพและเป็นหนึ่งในผู้ที่ใช้ไพ่ยิปซีในการทำความเข้าใจตนเอง เมกให้สัมภาษณ์กับ The Greatist ว่า เธอเริ่มใช้ไพ่ยิปซีครั้งแรกเมื่อเธอค้นพบว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับภาวะซึมเศร้า เมกค้นพบวิธีในการรับรู้และสะท้อนความรู้สึกต่างๆ ของเธอผ่านการใช้งานไพ่ เธอเข้าใจความรู้สึกเครียด ความโกรธ ความกลัว และอารมณ์ความรู้สึกของเธอมากขึ้นผ่านการใช้ไพ่
อีกทั้งไพ่ยิปซียังมีส่วนอย่างมากต่อการช่วยให้เมกก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาแย่ๆ ของเธอไปได้ เมกรู้สึกว่าไพ่มอบพลังงานบวกและความสบายใจให้กับเธอทุกครั้งที่เธอเปิดไพ่ แม้ว่าในบางครั้งไพ่อาจจะนำเสนอความจริงที่ยากจะยอมรับบ้างในบางครั้งก็ตาม แต่นั้นก็ทำให้เมกได้รู้จักตัวเองและค้นพบวิธีการใหม่ๆ ในการรับมือกับปัญหาต่างๆ ในชีวิตของเธอ
เริ่มต้นดูไพ่สำหรับมือใหม่
สำหรับใครที่อยากลองใช้ไพ่ยิปซีในการทำนายดวงชะตาหรือสะท้อนตัวตนด้วยตนเอง สามารถเริ่มต้นด้วยตนเองได้ โดยมี 5 ขั้นตอน ดังนี้
1.เลือกสำรับไพ่ ทุกวันนี้สำรับไพ่ที่วางขายตามร้านค้าหรือบนเว็บไซต์มีตัวเลือกให้เราเลือกจำนวนมาก โดยมีความหลากหลายทั้งลวดลาย สีสัน รวมถึงธีมของสำรับไพ่ ทว่าการเลือกใช้งานนั้นไม่มีกฎตายตัวว่าต้องเป็นรูปแบบไหนหรือธีมอะไร เพียงแต่เลือกสำรับที่เราถูกชะตาหรือชอบมากที่สุด เพื่อให้ตัวเราและไพ่เข้าถึงกันได้ดีที่สุด
2. ทำความเข้าใจไพ่แต่ละใบ หลังจากที่เลือกไพ่ที่ถูกใจมาเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องมาทำความรู้จักความหมายและชนิดของไพ่กันต่อ ทั้งนี้อาจต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และทำความเข้าใจของไพ่ทั้งหมดก่อน เนื่องจากไพ่แต่ละใบมีความหมายที่แตกต่างกัน ขั้นตอนนี้จึงเป็นขั้นตอนที่กินเวลามากที่สุดสำหรับผู้ที่จะเริ่มต้นดูไพ่ด้วยตนเอง แต่เมื่อทำความเข้าใจความหมายของไพ่แต่ละใบเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถนำไปตีความต่อเพิ่มเติมได้ไม่ยาก
3. เข้าใจรูปแบบการจัดวางไพ่ รูปแบบการเปิดไพ่ยิปซีนั้นมีค่อนข้างหลากหลาย โดยแต่ละรูปแบบการจัดวางไพ่จะให้ความหมายและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป โดยทั่วไปมักจะวางไพ่ในรูปแบบ 10 ใบ หรือที่เรียกว่า เซลติค คลอส (Celtic Cross) ซึ่งจะเป็นรูปแบบที่ครอบคลุมเนื้อหาและตอบคำถามของผู้ดูได้มากที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีการวางไพ่แบบ 3, 4, 5, 6, หรือ 7 ใบ ตามแต่ละจุดประสงค์เช่นกัน
4. เตรียมคำถามให้พร้อม ถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญเช่นกัน เนื่องจากเราควรเตรียมคำถามที่ไพ่สามารถตอบเราได้ โดยจะมีคำถามบางประเภทที่ไม่ควรจะนำมาถามกับไพ่ เช่น การถามเกี่ยวกับความตาย การถามเกี่ยวกับคนที่ยังไม่เกิด หรือคำถามที่เสียดสีผู้อื่น
5. เตรียมพื้นที่ให้พร้อมและเริ่มเปิดไพ่ได้! เมื่อเราทำความเข้าใจไพ่ เรียนรู้วิธีการอ่านไพ่ ตลอดจนเตรียมคำถามมาพร้อมเรียบร้อย ต้องไม่ลืมที่จะเตรียมพื้นที่โต๊ะสำหรับเปิดไพ่ด้วย ถ้ามีผ้าปูรองด้วยจะเป็นการดีมาก เพราะจะช่วยทำให้ไพ่ไม่เสียหายจากการขูดกับโต๊ะ โดยหลังจากที่เตรียมทุกขั้นตอนต่างๆ พร้อมแล้ว ก็เริ่มเปิดไพ่ทำนายดวงชะตากันได้เลย
ไม่ว่าไพ่จะทำนายดวงชะตาหรืออนาคตของเราออกมาแบบในรูปแบบใดก็ตาม ทว่าสุดท้ายแล้วอนาคตก็เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาขึ้นอยู่กับการกระทำของเราและปัจจัยอื่นที่เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอนคือการที่เราสะท้อนและเข้าใจตนเองจากการย้อนมองและสำรวจเรื่องราวในชีวิต
ข้อมูลอ้างอิง