มื้อกลางวันกับอาหารสไตล์ฝรั่งเศส ณ The Reflexions โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน
เปลี่ยนบรรยากาศเปลี่ยนรสชาติกันบ้าง วันนี้ก็เลยมาลองทานมื้อกลางอาหาสฝรั่งเศส ที่ถนนวิทยุ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี่ รอยับ เมริเดียน กันบ้างนะครับ การเดินทางมาที่นี่ก็แสนจะง่ายดาย เพียงนั่งรถไฟฟ้ามาที่สถานีเพลินจิต เดินเข้าซอยมาสัก 100 เมตรก็ถึงแล้ว ตอนนี้นะครับทางห้องอาหารมีการจัดให้บริการมื้อกลางวัน เป็นเซ็ตอาหารฝรั่งเศส แบบ 2 คอร์สในราคา 999 บาท++ และ 3 คอร์ส 1250 บาท++ ในทุกๆวันอังคาร ถึง เสาร์ เวลา 12.00-14.00 ครับ
โดยแบบ 2 คอร์ส จะมีอาหารเรียกน้ำย่อย กับ อาหารจานหลัก ส่วนแบบ 3 คอร์สจะเพิ่มของหวานเข้าไปครับ ซึ่งจะมีเมนูให้คุณเลือกประมาณ 3-4 ชนิด และสำหรับท่านที่ชื่นชอบทานชีส ทางห้องอาหารได้เตรียมชีสพรีเมี่ยม Les Freres Marchand จากฝรั่งเศสให้คุณลิ้มลองในราคา 450 บาท ( 3 ชิ้น )
และหากท่านเป็นสมาชิก เลอ คลับพลาซ่า จะได้รับส่วนลด 20% ทันที
สามารถสำรองที่นั่งและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-6508800 ต่อ 4333
Email [email protected]
web www.lemeridien.com/plazaatheneebangkok และ www.plazaatheneebangkok.com
คงอยากรู้แล้วใช่ไหมครับ ว่าอาหารหน้าตาเป็นไงบ้าง ลองไปดูกันเลย
มาถึงระหว่างรอสั่งอาหารก็จะมีของว่างมาเสิร์ฟให้ทานเล่นก่อนเลยครับ เป็นแผ่นแป้งทอดกรอบๆ และเบรดสติ๊ก
รองท้องด้วยขนมปังก่อนครับ ของที่นี่อบเสร็จเสิร์ฟใหม่ๆเลย นุ่มฟูมากๆ ผิวด้านนอกกรอบนิดๆ ด้านในนุ่มมากๆเลย
ให้ดูเมนูทั้งหมดกันก่อนเลยครับ วันนี้เรามา 2 คน และเลือกทานแบบ 3 คอร์ส เพราะงั้นก็จะมีชนิดละ 2 จานมาให้ชมกัน
อย่างแรกเลยเป็นอามุสบุสที่เป็นแซลม่อนครับ เนื้อปลาแซลม่อนหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ มีเบค่อนทอด ไข่ปลาแซลม่อน และมีมูสรสชาติหวานกลมกล่อมอยู่ที่ตัวเปลือกหอย เสิร์ฟมาบนชาโคล
ต่อมาเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยครับ จานนี้จะเป็น Lobster Soup ซึ่งบอกเลยว่าผมชอบจานนี้มากๆ ประกอบไปด้วย ลาวิโอลี่ที่ไส้ในเป็นล็อบเตอร์ และยังมีล็อบเตอร์หั่นเป็นชิ้นพอดีคำมาด้วยอีกหลายชิ้น และก็ยังมีครีมรสเปรี้ยว และมีข้าวโพดที่ให้ความหวาน ที่เด็ดสุดคือตัวซุปครับ เป็นซุปล็อบเตอร์ที่เข้มข้นแต่ไม่โดดจนเกินไปยังมีความนุ่มนวล กลมกล่อม บอกเลยว่าทานจนหยดสุดท้าย
อีกจานนึงเป็นแซลม่อนครับ ซึ่งหลักๆจะเป็นเนื้อปลาแซลม่อนกับเนื้อกุ้งลายเสือ ด้านล่างแซลม่อนจะเป็นเป็นสลัดเบาๆ กับผักสดหลายอย่าง และยังมีคาเวียร์อีกด้วย
ต่อกันด้วยอาหารจานหลักครับ ผมเลือกเป็น Wagyu Striploin ซึ่งจะประกอบไปด้วยเนื้อวากิว ประมาณ 120 กรัมเห็นจะได้ เสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องเคียง มันฝรั่ง มะเขือเทศ และไขกระดูกวัวซึ่งบอกเลยว่าตัวนี้เด็ดมากเพราะข้างบนโรยมาด้วยชีสและหอมเจียวซึ่งมันกรอบและหอมมากๆ
อีกจานนึงจะเป็นปลาครับ Japanese Seabream หรือเรียกง่ายๆว่า ปลามะได ของญี่ปุ่นนั้นเอง เอกลักษณ์ของมันคือเนื้อแน่นและนุ่มมากๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับองุ่น แอสพารากัส และมันฝรั่ง จานนี้ก็อร่อยมากๆเลยครับ
มาต่อกันด้วยของหวานจานแรกเป็น Chocolate ซึ่งในช็อคโกแลต 1 ชิ้นจะมีหลายๆชั้นอยู่ด้านใน ให้รสชาติที่หลากหลายมากๆ ตั้งแต่ขมช็อคโกแลต มีความเปรี้ยว และหวานตามมา อร่อยมากครับ
สุดท้ายที่ของหวานอีกจาน Strawberry เป็นซอลเบสตรอเบอรี่ ยังมีสตรอเบอรี่สดด้วย กับวนิลาและสตรอเบอรี่ทำเป็นรูปมาสเมนโล่
มีเครื่องดื่มที่เป็นน้ำผลไม้ด้วย แต่อันนี้สั่งแยกนะคร้าบ
สุดท้ายก็เอาบรรยากาศร้านมาฝาก บอกเลยว่าเป็นร้านที่นั่งสบาย โต๊ะไม่ชิดกันเกินไป รับลูกค้าได้ประมาณ 50-60 คนเท่านั้น ใครอยากทานก็ลองไปจองกันได้นะครับ