ภาพชุด : ทางช้างเผือก

แม้ว่าโลกวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์จะก้าวล้ำไปแค่ไหนก็ตามในปัจจุบัน แต่ก็ไม่เคยมีอัฉริยะคนไหนค้นพบขอบจักรวาลได้ ขนาดเมื่อ 2,500 กว่าปีมาแล้ว องค์สมเด็จพระสัมมา สัมพระพุทธเจ้ายังเตือนมนุษย์ผู้ยังคงจมอยู่ในปลักวังวลแห่งกิเลส ว่าอย่าไปคิดค้นหาเลย
มันเป็น " อจินไตย "
พูดง่ายๆคือ คิด ค้นจนบ้าก็ไม่มีทางหาเจอ
ซึ่งผู้ที่จะค้นพบได้ คือผู้ที่ "จิต" ฝึกมาดีแล้วเท่านั้น
...แต่ก็ไม่วายยังมีพระในยุคปัจจุบันวัดหนึ่ง ตนหนึ่ง

อวดอุตริ นำเรื่องเหล่านี้มาเล่นแร่แปรธาตุ เอาความจิตอ่อนของมนุษย์มาสร้างจุดขายว่าตนเคยท่องจักรวาลมาแล้วทำตัวเหนือพระศาสดา บิดเบือนพระธรรมคำสอนจนมีคนจำนวนมากหลงเชื่อ ในสิ่งที่พระตนนั้นมโนเอาเอง ว่าเป็นสิ่งที่จับต้องได้ ใครๆก็เข้าถึงได้
" สวรรค์ " อยู่แค่เอื้อมเหตุที่ยกสวรรค์มาเป็นข้ออ้าง เพราะ " ทางช้างเผือก " ตามคติของพราหมณ์ ฮินดูโบราณ มีความเชื่อว่าที่นั่นคือสวรรค์เป็นที่สถิตย์ของเทวดาทั้งหลาย และช้างเผือกคือสัญลักษณ์ของผู้มีอำนาจวาสนาที่จุติลงมาเป็นกษัตริย์ในโลกมนุษย์

ผู้มีบุญเท่านั้นถึงจะสัมผัสได้ฉะนั้นต้องมีการอัดบุญเข้าไปเยอะๆบางคนที่ตกเป็นสาวกของลัทธิเพี้ยนๆนี้กลายเป็นคนบุญเยอะ แต่หมดตัว ที่สำคัญคุยกับใครไม่ค่อยรู้เรื่องเพราสำคัญตนว่ากลายเป็นเทวดาไปแล้วเหมือนกัน

... เขียนมากก็ผิดมาก...เพียงแค่จะบอกว่าเมื่อคืนลุกขึ้นมา ทำธุระข้างบ้านกลางดึก เห็นทางช้างเผือกที่นักถ่ายภาพเขาล่ากันในช่วงนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ทางภาคใต้ ช่วงนี้ท้องฟ้าค่อนข้างมืดสนิท คืนไหนหากไม่มีเมฆหมอกลอยมาบัง เราสามารถมองเห็นทางช้างเผือกได้ด้วยตาเปล่า แม้จะไม่เป็นช้างตกมันอย่างที่นักล่าภาพแสวงหาแต่ก็มาย่ำอยู่บนหลังคาบ้าน หากไม่คว้ากล้องออกมาถ่ายเก็บไว้บ้างคงเสียดายแย่เผื่อประตูสวรรค์เปิดทาง ให้เห็นทางรำไรจะได้ต่อบันใดปีนขึ้นไปย่ำให้หนำใจ

.................สถานที่ / บนหลังคาบ้านต.วังใหญ่อ.เทพา จ.สงขลา02.00 น.6 มิถุนายน 2559