ชีวิตธรรมดาคอฟฟี่เฮ้าส์ ...ธุรกิจที่ทำเพราะใจรัก

โดยหลังจบปริญญาโทจากสหรัฐอเมริกาและทำงานอยู่บนฟ้า นัทธมน ก็กลายเป็น"แม่บ้านเต็มตัว" เมื่อติดตามสามีไปอยู่ที่เซียงไฮ้ และ 1 ปีที่นั่นถือเป็น"จุดเปลี่ยน"อย่างหนึ่งของชีวิต เพราะเธอกลายเป็นคนที่(ต้อง)ทำอาหารเอง จากที่ไม่เคยทำอะไร โดยค่อยๆเรียนรู้ว่าจะประยุกต์อะไรเป็นอาหารบนโต๊ะทำเองกินเองจนถึงขั้นคิดจะทำร้านกาแฟเมื่อกลับมาเมืองไทย ดังนั้น เมื่อเจอที่ดินริมน้ำกกในตัวเมืองขนาดประมาณ 1 ไร่ เธอและสามีจึงตัดสินใจลงทุนทำในสิ่งที่เธอบอกว่า"ทำแล้วมีความสุข" โดยปรับปรุงที่ดินและสร้างอาคารรูปทรงโคโลเนียลสีขาวแบบ English Style อยู่ท่ามกลางแมกไม้ที่ปลูกไว้จนร่มรื่น และตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจสำหรับนั่งกินดื่มสบายๆแบบ Slow Life สวยจนกลายเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานมาแล้วหลายคู่ และเป็นร้านกาแฟที่ดาราชื่อดังมากมายมาเช็คอินให้คนรับรู้

นัทธมน กล่าวว่า"จุดเด่น"ของร้านนอกจากร้านสวยแล้วก็คือ"เบเกอรี่"และ"เครื่องดื่ม"ที่แทบจะทั้งหมดเธอเป็นคนคิดเอง ทำเอง จึงเป็นกาแฟและเครื่องดื่มสูตรพิเศษ รวมทั้งเค้กและเบเกอรี่ที่ไม่เหมือนใคร เพราะการเลือก"วัตถุดิบ"ที่สดใหม่จากพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดกาแฟ ผัก สมุนไพร เครื่องเทศ เนื้อสัตว์ รวมถึงไข่ ที่ได้จากเกษตรกรในจังหวัดเชียงรายที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานเรื่องคุณภาพ "แต่งงานแล้วตามสามีไปอยู่เมืองจีน ที่เซียงไฮ้ 1 ปี ทำอาหารเอง แต่อยู่ไม่ได้ เลยคิดจะกลับไทย และนึกถึงเชียงราย เพราะเชื่อม 2 ประเทศคือพม่ากับลาว แถมมีเส้นทางสะดวกไปถึงจีน" นัทธมน กล่าวถึงการตัดสินใจเปิดร้าน เพราะในปีที้่เปิดร้านคือ 2011 ก็มีข่าวการตัดถนนเส้นทางเชื่อมกับเพื่อนบ้านหลายเส้นทาง ที่เธอมั่นใจว่าจะเป็นการเลือกที่เหมาะสม แม้จะรู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะในจังหวัดเชียงราย มี"ร้านกาแฟ"มากกว่าเชียงใหม่ด้วยซ้ำ แต่ก็มั่นใจใน"จุดขาย"ของร้านคืออาหารและเครื่องดื่มที่คิดเอง ทำเอง โดยก่อนที่จะเปิดร้าน"ชีวิตธรรมดา"นั้น เมื่อซื้อดินแล้ว ก็เริ่มปลูกต้นไม้เพื่อปรับพื้นที่ จากนั้น นัทธมน ก็เริ่มเรียนทำขนม 2 ปีโดยยึดรูปแบบสไตล์ญี่ปุ่น 

เมื่อเรียนรู้เรื่องอาหารและเครื่องดื่มจนมั่นใจตัวเอง เธอจึงตัดสินใจเริ่มก่อสร้างอาคารพร้อมๆกับต้นไม้ที่เริ่มเติบโต"ปีแรกก็ได้รับการตอบรับดี เพราะมีคนใช้โซเชียลมีเดียกันมาก" นัทธมน กล่าวและว่า ในวันแรกที่เปิดร้าน ยอมรับว่า"ลุ้นหนักมาก" เพราะไม่เคยทำธุรกิจเองมาก่อน แต่ก็ถือว่าได้กำลังใจดี เพราะมีรายได้ประมาณ 9 พันบาท ขณะที่ทุกวันนี้ ร้านสามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 150 ราย มีรายได้เฉลี่ยนวันละประมาณ 7-8 หมื่นบาท ขณะที่สปา ต้องโทรจองช่วงหน้าขณะที่ความสำเร็จและการมองการณ์ไกลกับการที่เชียงรายเป็นเส้นทางเชื่อมประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ในร้านมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมามากมายพอสมควร โดยวันธรรมดา คนที่มาที่ร้านจะเป็นคนเชียงรายเป็นหลัก ขณะที่วันหยุด จะมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศเข้ามาใช้บริการสปาและกินดื่มมากมายแม้วันนี้ ถือว่า"ชีวิตธรรมดา" เป็นหนึ่งใน"จุดหมายหลัก"ของคนมาเชียงราย"พลาดไม่ได้" แต่สำหรับ"นัทธมน" เธอมองว่ายังไม่สามารถวางใจได้ โดยเธอมีแผนงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการรักษาพนักงาน ที่ถือว่าเป็น"ทรัพยากรสำคัญ" ที่เคยเป็นจุดอ่อน และมีการเปลี่ยนที่ทำงานกันบ่อย ประเภทที่เมื่อชงกาแฟเป็นก็ถูกซื้อตัว หรือทำเบเกอรี่อร่อยก็ถูกดึงตัว โดยร้าน"ชีวิตธรรมดา" ใช้รูปแบบมีสวัสดิการ มีปันผลเมื่อทำรายได้เข้าเป้า ทำให้วันนี้ พนักงานในร้าน 50 ชีวิตแทบจะไม่เปลี่ยนคนเหมือนตอนเปิดใหม่ๆ

ขณะที่จุดขายสำคัญก็คือ"เครื่องดื่ม"และ"อาหาร" ก็มีการเปลี่ยนแปลง โดย"นัทธมน" จะคิดเอง และทุก 3 เดือน เธอจะออกเดินทางไปแสวงหาเครื่องดื่มหรืออาหารใหม่ๆว่ามีอะไรบ้าง จากนั้นก็มาทดลองทำสูตรเอง โดยทุก 3 เดือนที่ว่า จะมีเมนูเบอเกอรี่ใหม่ 10-20 อย่างเท่าที่คิดค้นได้มาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองเช่นเดียวกับวัตถุดิบ ที่เธอคิดไกลถึงขั้นเตรียมที่ปลูกผักเองบนดอย เพื่อมาทำอาหารคุณภาพ"ชึวิตธรรมดา" จึงไม่ใช่"ชีวิตธรรมดา"ของหญิงสาวชื่อ "อ้อน" นัทธมน โฮล์มเบิร์ก ที่ทำเพราะใจรัก และทำแล้วมีความสุข