แฉกลโกง! ลวงใช้ Ai เทรดคริปโตเสียหายนับล้าน
ขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพทำเว็ปเทรดปลอมขึ้นมาหลอกนักลงทุนหน้าใหม่ให้เข้ามาลงทุนในเว็ปไชต์ โดยอ้างว่าจะใช้ บอท ในหาจุดซื้อและจุดขายให้กับนักลงทุนในตลาดคริปโต จนทำให้มีเหยื่อนับร้อยรายสูญเงินเก็บที่หามาทั้งชีวิต เพราไปหลงเชื่อมิจฉาชีพเหล่านี้
ทีมข่าวสืบสวนความจริงได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อของเว็ปไซต์กระดานเทรดปลอม สูญเงินไปหลายแสนบาท
โดยผู้เสียหายรายแรกได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เริ่มจากที่มีความสนใจอยากลงทุนในตลาดสกุลเงินดิจิทัล แต่ไม่มีความรู้ ทราบเพียงว่าตลาดนี้มีความผันผวนสูง จึงยังไม่กล้าที่จะลงทุนด้วยตัวเอง จากนั้นก็มีคนรู้จักมาแนะนำให้ไปเทรดผ่านเว็บไซต์ พร้อมกับระบุว่าไม่จำเป็นต้องมีความรู้ก็สามารถมาลงทุนได้ เพราะเว็บไซต์แห่งนี้ มีโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่มีชื่อว่า "บอท" ช่วยทำการลงทุนให้ในตลาดคริปโต ที่จะนำเงินไปลงทุนในตลาด BitCoin Future ด้วยเหรียญ อีเธอเรียม
วิธีการคือ ผู้ลงทุนเพียงแค่โอนเงินไปให้กับทางเว็บไชต์ดังกล่าวตามจำนวนที่กำหนด ก็จะสามารถทำกำไรได้ทุกวัน อย่างน้อยวันละ 5% ของทุนที่ลงไป
โดยมีเงื่อนไขคิดค่าธรรมเนียมจากกำไรที่ทำได้จากการลงทุน เช่น หากลงทุนไปแล้วได้กำไรมา 100% ก็จะมีการหักออก 20% เพื่อคิดเป็นค่าจ้างให้กับเว็บไซต์ อีกทั้งมีการรับประกันว่าการลงทุนนี้ไม่มีความเสี่ยง และรับประกันว่าเงินทุนจะไม่หายไปอย่างแน่นอน
ขณะที่ผู้เสียหายอีกรายได้แฉพฤติกรรมขบวนการหลอกลงทุนของเว็ปไซต์ดังกล่าวว่า นอกจากการชักชวนแบบปากต่อปากแล้ว ขบวนการนี้มีการสร้างหน้าเพจปลอมขึ้นมาบน facebook จากนั้นทำการโฆษณาให้มีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้เข้าถึงเหยื่อได้มากขึ้น
โดยวิธีการหลอกคือ เปิดให้ลงทุนขั้นต่ำเริ่มต้นเพียงแค่ 15,000 บาท เมื่อเหยื่อตัดสินใจลงทุนก็จะให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีหน้าม้า และทำการสร้าง wallet ปลอมขึ้นมาในเว็ปไซต์ บนกระดานเทรดปลอม และทำทีเป็นว่าเงินของเหยื่อเข้าสู่กระดานเทรดแล้ว
หลังจากนั้นก็จะเชิญเหยื่อเข้ากลุ่มไลน์ ที่เป็นกลุ่มเฉพาะ โดยตั้งกฎไว้ 3 ข้อคือ
1.ห้ามพูดคุยกันนอกเวลาที่กำหนดคือ ตั้งแต่ 8 โมงเช้าไปจนถึงถึง 3 ทุ่ม
2. ห้ามคุยเรื่องการเมืองและสถาบัน
3. ห้ามไม่ให้คนในกลุ่มแอดไลน์หรือเพิ่มช่องทางการติดต่อหากัน
โดยมีเงื่อนไขว่า หากใครละเมิดกฏก็จะถูกยึดเงินลงทุนและไล่ออกจากกลุ่ม
ซึ่งในกลุ่มไลน์นี้ จะมีหน้าม้าคอยชักชวนให้ลงทุนเพิ่ม และบอกว่าหากเพิ่มเงินลงทุนก็จะได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นอีก อีกทั้งเพิ่มแรงจูงใจ โดยให้เหยื่อลองถอนเงินกำไรออกมาบางส่วน เพื่อให้เหยื่อตายใจว่าสามารถทำกำไรได้จริง
แน่นอนว่าเว็บไชต์เถื่อนแห่งนี้ไม่ได้นำเงินของเหยื่อไปลงทุนจริง ขบวนการนี้เผยธาตุแท้ออกมา โดยผู้เสียหายรายนี้เล่าว่าเมื่อวันที่ 5 พศจิกายนที่ผ่านมา ทางเว็บไชต์อ้างว่าจะทำการถอนเงินทุนและกำไรให้กับผู้ลงทุน และให้เหยื่อแจ้งความประสงค์ที่จะถอนเงินทั้งหมดออกมา และจะทำการจ่ายเงินให้ภายใน 1 วัน
เมื่อถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน เว็บไชต์ดังกล่าวได้ให้หน้าม้าที่อยู่ในกลุ่มไลน์ แจ้งต่อเหยื่อว่า มีลูกค้า 1 รายถอนเงินออกมาแล้วแต่ไม่ยอมจ่ายเงินค่าจ้าง 20% ให้ทางเว็บไซต์ตามเงื่อนไข และยังออกอุบายว่า ให้เหยื่อโอนเงินค่าจ้าง 20% มาก่อนถึงจะทำการคืนเงินทั้งหมดให้กับเหยื่อ ก่อนที่จะมีเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินเพิ่มเข้าไปให้
และในเย็นของวันนั้น เว็บไชต์เถื่อนดังกล่าวได้ทำการปิดตัวลงทันที และกลุ่มไลน์ก็ได้ปิดไปด้วยเช่นกัน ผู้เสียหายทั้งหมดรู้ทันทีว่าถูกแก๊งมิจฉาชีพโกง จึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เป็นที่ทราบกันดีในหมู่นักลงทุนว่า ตลาดของสกุลเงินดิจิทัลนั้น นอกจากจะให้ผลตอบแทนสูงแล้ว ยังมีความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกัน และสามารถการทำได้หลายช่องทาง ขณะที่ช่องทางที่เหมาะสำหรับมือใหม่นั้นคือการเทรด แบบ Spot ที่เป็นการเก็งกำไรราคาเหรียญด้วยการซื้อถูกไปขายแพง จะสามารทำเงินได้เฉพาะช่วงขาขึ้นของตลาดเท่านั้น
อีกช่องทางหนึ่งคือตลาด BitCoin Future ที่สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลงของตลาด คือการซื้อและขาย Long หรือ short ราคาของเหรียญว่าจะขึ้นหรือลง
แต่การลงทุนในตลาด BitCoin Future นั้นมีความเสี่ยงสูงมากและมีโอกาสที่เงินของนักลุงทั้งหมดนั้น จะหายไปในเวลาเพียงไม่กี่นาที หากราคาเหรียญมีความผันผวน สวนทางกับทิศทางที่นักลงทุนคาดการณ์
ในกรณีที่เว็บไชต์เถื่อนแห่งนี้อ้างว่าสามารถรับประกันเงินทุนของเหยื่อได้ในตลาด Bitcoin Future นั้น จึงเป็นไปไม่ได้ และหากนักลงทุนหน้าใหม่ทำการศึกษาตลาดก่อนการลงทุน ก็จะทราบได้ทันทีว่า เว็ปไชต์ดังกล่าวเป็นมิจฉาชีพที่แฝงตัวมา
เมื่อพูดถึงการลงทุน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ นักลงทุนควรถือเงินลงทุนเอาไว้กับตัวเองจะปลอดภัยที่สุด ยิ่งเป็นการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลด้วยแล้ ยิ่งไม่ควรนำเงินไปให้คนอื่นลงทุนเป็นอย่างยิ่ง เพราะจุดเด่นของสกุลเงินดิจิทัลคือ การทำธุรกรรมการโอนเงินบนเครือข่าย Blockchain ที่มีความรวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมที่ถูกมากๆ และสามารถจะโอนเงินข้ามประเทศได้ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นล้านเพียงเวลาไม่กี่นาที
หากเราหลงเชื่อโอนเงินไปให้กับแก๊งมิจฉาชีพ เหล่ามิจฉาชีพก็จะเอาเงินสดที่เราโอนไปซื้อเหรียญ Stable Coin ด้วยระบบ p2p คือการโอนเงินเข้าบัญชีผู้ขาย และผู้ขายจะส่ง stable Coin เข้า wallet ของผู้ซื้อในทันที ซึ่งวิธีนี้จะเป็นการตัดตอนบัญชีม้า ให้การตามรอยการเงินผ่านธนาคารให้มาจบที่บัญชีของพ่อค้าขายเหรีญ Stable Coin เท่านั้น
เมื่อได้เหรียญมาแล้ว มิจฉาชีพก็จะทำการโอนเหรียญไปยัง Hardware wallet หรือ Cold wallet ที่เปิดเอาไว้ ซึ่งบัญชีเหล่านี้จะไม่มีการระบุชื่อเจ้าของ wallet แม้ว่าวิธีนี้จะดูเหมือนการฟอกเงินที่แนบเนียน แต่เครื่อข่าย Blockchain นั้นมีข้อดีอีกหนึ่งอย่างคือ เราสามารถตามรอยเส้นทางการเงินผ่านเครือข่ายได้ เพราะทุกครั้งของการทำธุรกรรมจะถูกบันทึกเอาไว้ในเครื่อขายทั้งหมด เพียงแต่เราต้องทราบหมายเลข ID ของการทำธุรกรรม และเลขกระเป๋า wallet เท่านี้เราก็จะเช็คได้ว่าเหรียญดังกล่าวถูกโอนไปไว้ที่ไหน เหมือนในกรณีที่มีการโอนเหรียญ xrp จากกระดานเทรดในต่างประเทศมายังกระดานเทรดในประเทศไทย ผ่านเครือข่าย blockchain และทำการเช็คเส้นทางการเงินบนเครือข่ายได้
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งกลโกงที่พวกมิจฉาชีพ นำมาหลอกลวงนักลงทุนหน้าใหม่ที่สนใจจะมาลงทุนในตลาดคริปโตเคอเรนซี่ เราจะเห็นได้ชัดเจนว่า หากเราทำการศึกษาตลาดก่อนการลงทุน เข้าใจถึงรูปแบบการลงทุน
อย่าลืมว่าทุกการลงทุนล้วนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรจะศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อจะไม่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้