svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สุขภาพ

ไขความลับ “สีแดง” “สีเขียว” ตัวแทนสีและกลิ่นอายความสุขเชื่อมโยงกับสุขภาพ

25 ธันวาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เปิดที่มาของ “สีแดง” และ “สีเขียว” 2 สีที่กลายมาเป็นสัญลักษณ์ทรงประสิทธิภาพท่ามกลางกลิ่นอายความสุขในเทศกาลคริสต์มาส พร้อมเปิดคุณประโยชน์ของสารพฤกษเคมีที่ซ่อนอยู่ในผักผลไม้ ว่าดีต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง

วันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันคริสต์มาส  (Christmas) จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู ซึ่งเป็นศาสดาในศาสนาคริสต์ นับเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดประจำปีที่ชาวคริสต์ให้ความสำคัญมาก สำหรับสีสันที่ประดับประดาในช่วงเทศกาลสำคัญ ประกอบด้วยคู่สีแดงและสีเขียว ซึ่งมีที่มาจาก "ต้นฮอลลี" (Holly) จากใบสีเขียวชอุ่มและผลสีแดงสด

ไขความลับ “สีแดง” “สีเขียว” ตัวแทนสีและกลิ่นอายความสุขเชื่อมโยงกับสุขภาพ

ย้อนเวลากลับไปนับพันปี ก้านของต้นฮอลลี ต้นมิสเซิลโท (Mistletoe) และต้นไอวี (Ivy) มักถูกนำมาใช้ในการประดับตกแต่ง และช่วยให้บ้านมีชีวิตชีวามากขึ้นท่ามกลางฤดูหนาวที่แสนยาวนาน อีกทั้งยังเป็นการเตือนใจ หรือให้ความหวังผู้คนด้วยว่า ฤดูใบไม้ผลิกำลังมา และฤดูอันหนาวเหน็บจะไม่คงอยู่ตลอดไป ในอีกทางหนึ่ง ต้นฮอลลียังนับเป็นรากฐานของศาสนาคริสต์ โดยผลสีแดงเปรียบเป็นัญลักษณ์ของเลือดบนไม้กางเขน ส่วนใบไม้ที่มีหนามเปรียบเป็นมงกุฎหนามบนศีรษะพระเยซูคริสต์

ไขความลับ “สีแดง” “สีเขียว” ตัวแทนสีและกลิ่นอายความสุขเชื่อมโยงกับสุขภาพ

หากใช้ทั้งสองสีธีมวันคริสต์มาสมาเชื่อมโยงกับเรื่องสุขภาพและธรรมชาติ แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องของผักผลไม้หลากสีที่เป็นผลิตผลจากธรรมชาติ วันนี้เราจะมาดูกันว่า ”สีแดง” และ “สีเขียว” มีอะไรซ่อนอยู่ และดีต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง

 

"สารพฤกษเคมี" ดีต่อสุขภาพ

สารพฤกษเคมี หรือไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) เป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพที่พบเฉพาะในพืช สารกลุ่มนี้อาจเป็นสารที่ทำให้พืชผักชนิดนั้นๆ มีสี กลิ่น หรือรสชาติที่เป็นลักษณะเฉพาะตัว สารพฤกษเคมีเหล่านี้หลายชนิดมีฤทธิ์ต่อต้านหรือป้องกันโรคบางชนิดและโรคสำคัญที่มักจะกล่าวกันว่าสารกลุ่มนี้ช่วยป้องกันได้คือโรคมะเร็ง กลไกการทำงานของสารพฤกษเคมีเมื่อเข้าสู่ร่างกายอาจช่วยให้เอนไซม์บางกลุ่มทำงานได้ดีขึ้น เอนไซม์บางชนิดทำหน้าที่ทำให้สารก่อมะเร็งหมดฤทธิ์ ซึ่งปัจจุบันพบสารพฤกษเคมีแล้วระหว่าง 50,000 ถึง 130,000 ชนิด

นักวิทยาศาสตร์พบว่า สารพฤกษเคมีสร้างประโยชน์ด้วยกลไกการออกฤทธิ์ในรูปแบบต่างๆ คือ ต้านออกซิเดชัน ทำลายฤทธิ์ของอนุมูลอิสระ ลดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ลดการเกิดโรคมะเร็งได้ เพิ่มภูมิต้านทานโรค และควบคุมการออกฤทธิ์ของฮอร์โม ทั้งนี้ การผสมผสานของสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในผักและผลไม้ชนิดต่างๆ หลากชนิดจะให้คุณภาพการต้านอนุมูลอิสระที่ดีกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากแหล่งอาหารเพียงแหล่งเดียว

 

ประโยชน์ของผักผลไม้ "สีแดง"

ไขความลับ “สีแดง” “สีเขียว” ตัวแทนสีและกลิ่นอายความสุขเชื่อมโยงกับสุขภาพ

ผักผลไม้สีแดง เช่น มะเขือเทศ, กระหล่ำปลีแดง, พริกแดง, หอมแดง, บีทรูท, แอปเปิ้ลสีแดง, สตรอว์เบอร์รี่, เชอรี่, แครนเบอร์รี่, ราสเบอร์รี่, มะละกอ, ส้มโอสีชมพู, ทับทิม, องุ่นแดง, แตงโม และดอกกระเจี๊ยบ เป็นต้น

ผักผลไม้ที่มีสีแดง มีสารสำคัญ คือ "ไลโคปีน" (Lycopene) "เบตาไซซีน" (Betacycin) และ "สารแอนโทไซยานิน" (Anthocyanin) เม็ดสีที่สามารถเปลี่ยนสีเป็นน้ำเงินหรือม่วงในเมื่ออยู่ในสภาวะแวดล้อมของอุณหภูมิ หรือความเป็นกรดด่าง ที่แตกต่างกัน

ประโยชน์ของผักผลไม้สีแดง ที่อุดมด้วยไลโคปีน เม็ดสีแคโรทีนอยด์ที่ให้สีแดงแก่พืชผักต่างๆ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง ทำให้ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งปากมดลูก ช่วยลดปริมาณไขมันไม่ดีชนิด LDL-cholesterol ช่วยชะลอการเกิดโรคหัวใจหลอดเลือด ลดความดันโลหิตและลดการแข็งตัวของหลอดเลือด นอกจากนี้ ผักผลไม้ที่มีสีแดงยังขึ้นชื่อว่ากินแล้วผิวจะสวย ช่วยในเรื่องของริ้วรอยจากสิว ช่วยให้มีดวงตาที่สดใส  ป้องกันโรคต้อกระจก

 

ประโยชน์ของผักผลไม้ "สีเขียว"

ไขความลับ “สีแดง” “สีเขียว” ตัวแทนสีและกลิ่นอายความสุขเชื่อมโยงกับสุขภาพ

ในผักและผลไม้มักอุดมไปด้วยคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) ที่เป็นสารสีเขียว อยู่ในคลอโรพลาสต์ ละลายในน้ำมัน พบในผักและผลไม้ที่มีสีเขียว เช่น กะหล่ำปลีสีเขียว, บรอกโคลี, คะน้า, หน่อไม้ฝรั่ง, อะโวคาโด, แตงกวา, ผักโขม, ถั่วลันเตา, แอปเปิ้ลสีเขียว, องุ่นเขียว, ผักบุ้ง, ตำลึง, ผักกวางตุ้ง, ใบบัวบก, บวบ, แตงกวา, พริกหวานสีเขียว, มะเขือ เป็นต้น

นอกจากคลอโรฟิลล์ที่เป็นสารป้องกันการเกิดมะเร็ง และช่วยขจัดกลิ่นเหม็นต่างๆ ในร่างกายแล้ว ในผักผลไม้ที่มีสีเขียวยังมีสารสำคัญอย่าง ลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง ชะลอการเสื่อมของจอประสาทตา มีไฟเบอร์สูง ช่วยเรื่องการขับถ่าย ยับยั้งการเกิดริ้วรอย ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย

สำหรับผักทุกชนิดมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักใบเขียว ที่มีเบต้าแคโรทีน และวิตามินอี ซึ่งมีสารช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคมะเร็ง อีกทั้งยังช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด ช่วยบำรุงสมองและความจำ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ควบคุมสมดุลของระดับแคลเซียม เป็นต้น แร่ธาติอีกชนิดหนึ่งที่มีมากในผักใบเขียว คือแคลเซียม ที่ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง ช่วยในการทำงานของระบบประสาท การหดตัวและขยายตัวของกล้ามเนื้อ และแคลเซียมยังช่วยให้เลือดแข็งตัวได้เร็วเมื่อมีบาดแผล

อีกเรื่องที่สำคัญของการบริโภคผักและผลไม้ ก็คือการได้รับกากใยอาหารที่เป็นตัวช่วยให้การขับถ่ายเป็นไปอย่างปกติ ไม่เป็นโรคท้องผูก ดังนั้น ใครที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่ายแนะนให้กินผักผลไม้ ระบบขับถ่ายจะกลับมาทำงานได้ปกติ และขับถ่ายอย่างมีความสุข

 

เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับการไขความลับ “สีแดง” “สีเขียว” ตัวแทนสีและกลิ่นอายความสุขเชื่อมโยงสุขภาพ นอกจากเกร็ดความรู้ของวันคริสต์มาสแล้ว ยังได้ประโยชน์เรื่องสุขภาพไปเต็มๆ

 

logoline