7 เคล็ดลับยามเช้ากระตุ้นการขับถ่าย เพื่อร่างกายที่พร้อมเริ่มต้นวันใหม่

เช้านี้ใครที่ต้องทนทุกข์กับระบบขับถ่าย จะเข้าห้องน้ำแต่ละครั้งแสนลำบากเรียกว่าต้องเบ่งกันจนหน้ามืด ทิ้งไว้หลายวันยิ่งอึดอัด ไม่สบายตัว ไม่ควรปล่อยไว้!! เพราะนั่นเป็นสัญญาณบอกว่า “ภาวะการขับถ่ายเราผิดปกติ” ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรงกว่าที่เราคิด

การขับถ่ายที่ผิดปกติ

จุดเริ่มต้นของการขับถ่ายยาก เริ่มต้นด้วยอาการ “ท้องผูก” แม้จะไม่ใช่โรคที่อันตราย แต่หากละเลยจนท้องผูกเรื้อรังเป็นเวลานานอาจนำไปสู่ภาวะภาวะแทรกซ้อนบางอย่างได้ สำหรับ “ภาวะท้องผูก” ทางการแพทย์นั้น หมายถึง ภาวะที่ขับถ่ายยาก อาจต้องใช้เวลาเบ่งถ่ายเป็นเวลานาน จำนวนการ “ขับถ่ายน้อยกว่าสัปดาห์ละ 3 ครั้ง” การขับถ่ายแต่ละครั้งได้ไม่มาก มีลักษณะเป็นเม็ดแข็ง รู้สึกอึดอัดแน่นท้องเหมือนถ่ายไม่สุด 

หากมีอาการท้องผูกนานกว่า 3 เดือน หรือพบว่ามีอาการท้องผูกร่วมกับอาการเตือนอื่นๆ เช่น น้ำหนักลด ถ่ายเป็นเลือด ท้องผูกสลับท้องเสีย ถ่ายอุจจาระลำเล็กลง ควรพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษา เนื่องจากถึงแม้ภาวะท้องผูกจะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคอื่นๆ เช่น ริดสีดวงทวาร ภาวะอุจจาระตกค้าง โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติญาติสายตรงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือเริ่มมีอาการท้องผูกเมื่ออายุมากกว่า 50 ปี

เวลาที่ดีที่สุดของการขับถ่าย

05:00 – 07:00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้ใหญ่ตามนาฬิกาชีวิต นี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการขับถ่ายในทุกๆ วัน เราสามารถกระตุ้นอวัยวะนี้ให้ทำงานได้ด้วยวิธีง่ายๆ คือการดื่มน้ำ 2 แก้ว หลังจากตื่นนอนเท่านั้นเอง เราควรทำกิจกรรมนี้ให้เป็นกิจวัตรประจำวัน เพราะการขับถ่ายทุกวันส่งผลดีต่อร่างกาย ทั้งการขับของเสียออกจากร่างกาย และทำให้ร่างกายสดชื่น ผิวพรรณสดใส ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นริดสีดวง และอาการท้องผูกได้

7 เคล็ดลับยามเช้าช่วยกระตุ้นการขับถ่าย เพื่อร่างกายที่พร้อมเริ่มต้นวันใหม่

1 ดื่มน้ำเปล่าทันทีเมื่อตื่นนอน

การดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 1-2 แก้ว เมื่อตื่นนอนทันทีขณะที่ท้องว่าง จะช่วยกระตุ้นให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น เพราะเมื่อเราดื่มน้ำเปล่าเมื่อท้องว่าง ลำไส้ก็จะทำงานได้ดีขึ้น และส่งผลให้เราขับถ่ายเป็นเวลา แถมยังช่วยในเรื่องของไม่ทำให้ท้องผูก นอกจากนี้อย่างที่ทราบกันดีว่า น้ำเปล่ายังช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งอีกด้วย ดังนั้นเราจึงควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้วต่อวัน เพื่อสุขภาพที่ดี ดื่มน้ำตอนเช้า เพื่อช่วยชะล้างสิ่งตกค้างและกำจัดสารพิษในลำไส้ให้ออกไปจากร่างกาย และยังช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญของร่างกายให้ดีขึ้นด้วย

2 ดื่มกาแฟตอนท้องว่าง

การดื่มกาแฟในตอนเช้าขณะที่ท้องว่างจะช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้ เนื่องจากกาแฟจะไปช่วยเพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้เร่งกระบวนการย่อยอาหาร และส่งผลให้ลำไส้ทำงานเร็วขึ้น กระทั่งทำให้คุณรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ แล้วขับถ่ายออกมาในที่สุดนั่นเอง แต่ทั้งนี้การดื่มกาแฟในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลให้นอนไม่หลับ ใจสั่นและใจเต้นเร็วปกติ รวมถึงความดันโลหิตสูงขึ้น และอาจถึงขั้นเสียชีวิตกะทันหันได้เลยทีเดียว

3 นมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตสักถ้วยช่วยได้

หากตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกอยากขับถ่ายในตอนเช้า ลองหาตัวช่วยอย่างนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตกินดูก็ได้ เพราะนมเปรี้ยวและโยเกิร์ต มีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อลำไส้ ซึ่งจะไปช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ให้คุณสามารถขับถ่ายได้ง่ายขึ้น เหนืออื่นใด นมเปรี้ยวและโยเกิร์ตยังมีคุณค่าทางโภชนาการอีกมาก และยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรค รวมถึงเพิ่มอัตราการดูดซึมแคลเซียมด้วย

4 ดื่มน้ำผลไม้ เช่น น้ำส้ม น้ำมะนาว

ในน้ำส้มและน้ำมะนาว มีวิตามินซีสูงมาก ยิ่งถ้าคั้นสดๆ แล้วดื่มในตอนเช้า ขณะท้องว่างด้วยแล้ว รับรองเลยว่ามันจะไปช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้เป็นอย่างดี เนื่องด้วยคุณสมบัติของผลไม้ทั้งสองชนิด ซึ่งส้มก็มีกากใยอาหารเยอะ ส่วนมะนาวก็มีส่วนช่วยกระตุ้น การทำงานของระบบขับถ่ายด้วย แถมแก้อาการท้องผูกได้ จึงถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีเลย ดื่มน้ำผลไม้ เช่น น้ำส้ม เพราะมีวิตามินซีสูง และมีกากใยอาหารเยอะ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้ดี หากดื่มในตอนเช้าหรือขณะท้องว่าง

5 กินผักผลไม้กากใยสูง

ผักและผลไม้นั้นมีประโยชน์มากมายต่อร่างกายอยู่แล้ว แถมยังช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น เช่น การกินกล้วยเมื่อท้องว่าง จะช่วยกระตุ้นและทำให้การขับถ่ายสะดวกขึ้น ส่วนส้มที่มีวิตามินซีและกากใย ก็ถือเป็นผลไม้อีกอย่าง ที่จะไปช่วยในเรื่องของการขับถ่ายได้ รวมถึงมะกอสุก ที่มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ซึ่งรับรองว่าถ้ากินผลไม้เหล่านี้เข้าไปในตอนเช้า จะช่วยทำให้รู้สึกอยากจะเข้าห้องน้ำเลยทีเดียว

6 เคลื่อนไหวร่างกายกระตุ้นการขับถ่าย

การเคลื่อนไหวร่างกาย และการออกกำลังกาย เช่น การวิ่งเหยาะๆ และการเคลื่อนไหวร่างกายที่มีการบิด หรือการพับของช่วงเอว เมื่อทำซ้ำหลายๆ ครั้ง จะเป็นการนวดลำไส้ใหญ่ ช่วยให้ลำไส้ใหญ่มีการหด และคลายตัวที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายให้ดีขึ้นได้

7 ท่าไม้ตายที่ช่วยให้ขับถ่ายสบายขึ้น

เคล็ดลับสุดท้ายคือท่านั่งที่ถูก เพียงแค่เอียงตัวไปข้างหน้าประมาณ 35 องศา หรือท่าที่ใช้ศอกวางบนเข่าหรือหน้าขา เพราะท่านี้ช่วยให้ลำไส้ใหญ่ยืดตรง และมีผลช่วยให้การถ่ายคล่องขึ้นนั่นเอง ... ลองทำตามกันดูเพราะหลายคนบอกว่ามันได้ผล!!