6 ของกินอันตรายกระตุ้นเบาหวาน เพิ่มน้ำตาลในเลือดสูง!!

อาหารที่เรารับประทานเข้าไป สัมพันธ์โดยตรงกับการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือด และสามารถทำให้เกิดภาวะเบาหวานประเภทที่ 2 ได้ ยิ่งหากเป็นผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานอยู่แล้ว การควบคุมการรับประทานอาหารให้เหมาะสมนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะอาหารและเครื่องดื่มที่มีรสหวานจัดซึ่งต้องควบคุมให้อยู่หมัด เพื่อช่วยป้องกันอาการของโรคเบาหวานกำเริบ

น้ำตาลในเลือดสูง ได้อย่างไร?

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง พบได้บ่อยในผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉิน โดยหมายถึง ระดับน้ำตาลในเลือดที่มากกว่าปกติ ซึ่งโดยปกติแล้วค่าน้ำตาลในเลือด (Blood Sugar) จะอยู่ในช่วงระดับ 70 - 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (mg/dL) แต่หากมีความเสี่ยงหรือเบาหวานแฝงระดับน้ำตาลในเลือดจะอยู่ประมาณ 100 – 125 และหากระดับน้ำตาลในเลือด มากกว่า 126 อาจหมายถึง มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานแล้ว 

สาเหตุของการเกิดน้ำตาลในเลือดสูง ส่วนใหญ่มาจากการคุมเบาหวานได้ไม่ดี การรับประทานอาหารมากเกินไป ขาดการออกกำลังกาย รับประทานยาหรือฉีดอินซูลินไม่สม่ำเสมอ หรืออาจมาจากการเจ็บป่วยรุนแรง เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือมีภาวะติดเชื้อ รวมถึงการได้รับยาต้านอินซูลิน เช่น สเตียรอยด์ ยาขับปัสสาวะ

การมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายเริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน รวมถึงโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวกับระบบเผาผลาญน้ำตาลในร่างกาย หากปล่อยให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลให้เกิดภาวะหลอดเลือดอักเสบและอุดตัน และทำให้ร่างกายเกิดภาวะติดเชื้อต่างๆ ได้ง่าย

อาการเตือนของภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

• กระหายน้ำมาก ดื่มน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะเวลากลางคืน
• อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย น้ำหนักลด ตามัว
• เริ่มซึมจนกระทั่งหมดสติ หรือบางรายอาจจะมีอาการชักกระตุกร่วมด้วย

ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้นสำหรับคนที่มีน้ำตาลในเลือดสูง คือการดื่มน้ำสะอาดมากๆ หยุดทํากิจกรรม และนอนพัก หากอาการไม่ดีขึ้น เจาะเลือดด้วยตนเองแล้วพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดสูงมาก ควรตรวจเลือดซ้ำ และปัสสาวะซ้ำทุก 4 ชม. รวมถึงดื่มน้ำสะอาดมากๆ แต่หากมีอาการชักกระตุกเฉพาะที่ หรือมีอาการซึม และมีระดับน้ำตาลในเลือดมาก ให้รีบมาพบแพทย์ทันที

การป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

• ควบคุมเบาหวานให้ดี โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งด้านการควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย การรับประทานยา
• ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด และปัสสาวะอย่างสม่ำเสมอ
• กรณีไม่สบายควรไปพบแพทย์ ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง และควรบอกแพทย์ว่าเป็นเบาหวาน

6 ของกินอันตรายกระตุ้นเบาหวาน เพิ่มน้ำตาลในเลือดสูง!!

1. แป้งขัดขาว

อาหารที่อยู่ในกลุ่มแป้งขัดขาว เช่น ขนมปังขาว พาสต้า เส้น และข้าวขาว เมื่อเข้าไปอยู่ในร่างกายจะย่อยแล้วเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาล ซึ่งหมายความว่าอาหารในกลุ่มนี้สามารถที่จะเพิ่มระดับกลูโคสในเลือด ดังนั้นหากใครที่กำลังพยายามลดระดับน้ำตาลในเลือด ควรทดแแทนการรับประทานอาหารในกลุ่มแป้งขัดขาวเป็นธัญพืชเต็มเมล็ด เช่น ข้าวกล้อง ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต และขนมปังโฮลเกรน เพื่อให้คาร์โบไฮเดรตสลายตัวได้ช้ากว่า และมีทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็วเกินไป

2. ผลไม้หวานจัด

ส่วนใหญ่ผลไม้มักมีค่าดัชนีน้ำตาลไม่สูงนัก จึงอาจไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ผลไม้บางชนิดมีคาร์โบไฮเดรตสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อการควบคุมน้ำหนักและทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานสูงขึ้นได้ อาทิ ลำไย ทุเรียน มะม่วงสุก กล้วยสุก สับปะรด อีกเรื่องต้องระวังเลยคือ ผลไม้แห้ง ซึ่งแม้ว่าผลไม้แห้งจะมีไฟเบอร์และสารอาหารมากมาย แต่ในกระบวนการทำให้แห้งและการขจัดน้ำออกทำให้อาหารชนิดนี้รับประทานได้ง่ายและเยอะมากกว่าการรับประทานผลไม้สดทั่วไป ซึ่งทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นได้ ดังนั้น ควรเลือกกินผลไม้ทั้งลูกที่มีทั้งไฟเบอร์ วิตามินสูง และค่าดัชนีน้ำตาลน้อยจะดีกว่า

3. น้ำผลไม้

น้ำผลไม้จัดว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง แม้แต่น้ำผลไม้ 100%  ก็ไม่ควรดื่ม เพราะการที่เราคั้นน้ำผลไม้แต่ละแก้วนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้ผลไม้ในปริมาณที่มากพอสมควร การดื่มน้ำผลไม้เพียงแค่ 1 แก้ว ก็เปรียบได้กับการกินผลไม้หลายๆ ลูกในคราวเดียว แต่ไม่มีใยอาหาร แถมส่งผลให้น้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นสูงได้ และยิ่งถ้าเราไปซื้อน้ำผลไม้ตามร้านหรือซื้อแบบบรรจุกล่องก็อาจจะมีการผสมน้ำตาลเข้าไปด้วยทำให้เราได้รับน้ำตาลเพิ่มมากขึ้นไปอีก ดังนั้น แนะนำว่าให้รับประทานผลไม้สดไปเลยจะดีกว่า โดยให้เลือกผลไม้ที่ไม่หวานจัดและรับประทานไม่เกินมื้อละ 1 อุ้งมือเพื่อได้รับประโยชน์มากกว่า

4. ขนมหวานและไอศกรีม

อาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณสูง เช่น ของหวาน คุกกี้ เค้ก ฮันนี่โทสต์ ไอศกรีม นอกจากช่วยเติมหวานให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าแล้ว รสหวานในอาหารเหล่านี้แทบจะก็ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการอยู่เลย และยังทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นปัญหาต่อการลดน้ำหนัก เพราะมีส่วนผสมของคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสีซึ่งสามารถเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้ เมื่อมีน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดจำนวนมาก ร่างกายก็จะผลิตอินซูลินเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด เมื่ออินซูลินไหลเวียนมากขึ้นในกระแสเลือด ร่างกายก็จะแปลงไปเป็นไขมันและกักเก็บไว้ ส่งผลให้เรามีไขมันสะสมมากขึ้น

5. เครื่องดื่มยอดฮิตของชาวออฟฟิศ

คนทำงานมักเลือกเครื่องดื่มติดโต๊ะตามกระแส ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ ชานมไข่มุก น้ำปั่น นมเปรี้ยว น้ำสมุนไพรเติมน้ำตาล เครื่องดื่มชูกำลัง ตลอดจนน้ำอัดลมประเภท 0 แคลอรี่ หรือน้ำตาล 0 เปอร์เซ็นต์  เพื่อเป็นการจำกัดปริมาณแคลอรีที่รับประทาน หรือเพื่อเป็นการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควรเลือกเป็นเครื่องดื่มที่ไม่เติมน้ำหวาน หวานน้อย หรือใช้น้ำตาลเทียม (non-nutritive sweeteners) เช่น aspartame, saccharin, sucralose หรือหญ้าหวานแทนน้ำตาลทรายขาว หรือน้ำตาลทรายแดง โดยสามารถอ่านรายละเอียดฉลากโภชนาการทุกครั้งก่อนเลือกซื้อ อีกเครื่องดื่มที่วัยทำงานหลายคนมองข้ามคือ แอลกอฮอล์ ที่ควรจำกัดปริมาณไม่เกิน 1 Drink ในผู้หญิง และ 2 Drink ในผู้ชาย เนื่องจากแอลกอฮอล์สามารถทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้เช่นกัน และไม่ควรดื่มตอนท้องว่าง เพราะจะทำให้น้ำตาลต่ำได้

6.อาหารฟาสต์ฟู้ด

เมนูฟาสต์ฟู้ดส่วนใหญ่มักเป็นอาหารที่ตรงกันข้ามกับอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะไม่ว่าจะเป็นแฮมเบอร์เกอร์ พิซซ่า ไก่ทอด เฟรนช์ฟรายส์ ล้วนมีแคลอรีและไขมันสูง นอกจากนี้ อาหารฟาสต์ฟู้ดมักมีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตขัดสีสูง เมื่อทานอาหารฟาสต์ฟู้ดมากเกินไปจนเกิดจากการสะสมของไขมันในร่างกายโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง จะเกิดภาวการณ์ต้านอินซูลินทำให้มีการสะสมกลูโคสในร่างกาย ส่งผลให้เป็นโรคเบาหวาน และภาวะแทรกซ้อนได้ ดังนั้น จึงควรจำกัดปริมาณในการรับประทาน และไม่ควรรับประทานบ่อยจนเกินไป