svasdssvasds
เนชั่นทีวี

รักษ์โลก

รู้จัก สารออกซิไดซ์ จากเหตุไฟไหม้แหลมฉบัง ก่ออันตรายต่อผู้คน-สิ่งแวดล้อม

บทเรียนจากเหตุไฟไหม้ถังสารเคมีออกซิไดซ์ 5.2 ในลานสินค้าอันตรายที่ท่าเรือแหลมฉบัง เรื่องนี้กระทบกับสังคม สิ่งแวดล้อม วันนี้จะพาไปทำความรู้จักสารชนิดนี้กันว่าจะส่งผลกระทบอะไรบ้าง สายอนุรักษ์ สายรักษ์โลก สายสุขภาพ ต้องไม่พลาดข่าวนี้

ชวนคอข่าว มาร่วมถอดบทเรียนเหตุไฟไหม้ถังสารเคมีออกซิไดซ์ 5.2 ในลานสินค้าอันตรายที่ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เหตุการณ์ในครั้งนี้มีสารเคมีประเภทสารออร์แกนิคเปอร์ออกไซด์ จำนวน 378 กล่อง น้ำหนัก 6.7 ตัน ที่บรรจุภายในตู้ได้รับความเสียหาย จำนวน 1 ตู้ และได้มีการเกิดกลุ่มควันสีขาว และกลุ่มควันสีดำ กระจายไปทั่วพื้นที่ และบริเวณใกล้เคียง

รู้จัก สารออกซิไดซ์ จากเหตุไฟไหม้แหลมฉบัง ก่ออันตรายต่อผู้คน-สิ่งแวดล้อม รู้จัก สารออกซิไดซ์ จากเหตุไฟไหม้แหลมฉบัง ก่ออันตรายต่อผู้คน-สิ่งแวดล้อม
ย้อนไปเมื่อ 29 สิงหาคม 2566 เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุระเบิดและเกิดไฟไหม้ ภายในบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มีแสงเพลิง และกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งขึ้น สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล 

รู้จัก สารออกซิไดซ์ จากเหตุไฟไหม้แหลมฉบัง ก่ออันตรายต่อผู้คน-สิ่งแวดล้อม

โดยจุดที่เกิดไฟไหม้ เป็นถังบรรจุสินค้าอันตราย ประเภท UN.2014 class 5.1 ซึ่งมีกลุิ่นฉุนรุนแรง และมีฤทธิ์ต่อการกัดกร่อน เหตุเกิดภายในลานพักตู้คอนเทนเนอร์ JWD เขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง  

จากการตรวจสอบ ทราบว่าจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณ ท่าเรือแหลมฉบัง แถว A0 ซึ่งมีตู้คอนเทนเนอร์ วางเรียงอยู่จำนวนมาก เกิดเหตุระเบิดและไฟไหม้รุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งควบคุมเพลิง

เบื้องต้นทราบว่า ขณะเกิดเหตุมีคนงานได้รับบาดเจ็บ จำนวน 6 ราย โดยได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดของวัตถุดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลแหลมฉบัง

รู้จัก สารออกซิไดซ์ จากเหตุไฟไหม้แหลมฉบัง ก่ออันตรายต่อผู้คน-สิ่งแวดล้อม

รู้จัก สารออกซิไดซ์ จากเหตุไฟไหม้แหลมฉบัง ก่ออันตรายต่อผู้คน-สิ่งแวดล้อม

ประเด็นร้อนๆ นี้ ทำให้หลายๆ หน่วยงาน สังคมและผู้คนโดยรอบ มีความกังวลใจเรื่องสารเคมีออกซิไดซ์ 5.2 ว่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อม

ล่าสุด ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "Sonthi Kotchawat" ระบุข้อความว่า

รู้จัก สารออกซิไดซ์ จากเหตุไฟไหม้แหลมฉบัง ก่ออันตรายต่อผู้คน-สิ่งแวดล้อม

สารออกซิไดซ์ Class 5.2 เป็นสารเปอร์ออกไซด์อินทรีย์มีคุณสมบัติ คือ เป็นสารที่มีความไวต่อการทำปฏิกริยาอย่างมาก ตัวสารจะไม่เกิดการลุกไหม้ แต่จะช่วยให้สารอื่นลุกไหม้ได้ โดยเมื่อสลายตัวจะปล่อยก๊าซออกซิเจนออกมา เช่น สารประกอบของไนเตรท,โพแทสเซียมเปอร์คลอเรต,ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์, ไซโคเฮกซานอน เป็นต้น

รู้จัก สารออกซิไดซ์ จากเหตุไฟไหม้แหลมฉบัง ก่ออันตรายต่อผู้คน-สิ่งแวดล้อม
หากใครที่อยากทราบว่า ผลกระทบหากคนได้รับสารเปอร์ออกไซด์อินทรีย์ จะเป็นอย่างไรบ้าง คือสารดังกล่าวจะทำเกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรงต่อดวงตา และผิวหนังรวมทั้งเยื่อเมือก อาจก่อให้เกิดการแพ้บางชนิดก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในระยะยาว เช่น สารโพแทสเซียม คลอเรตอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง และตา คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ตัวซีดหรือเขียว ทำลายเม็ดเลือดแดงเป็นอันตรายต่อไต และกล้ามเนื้อหัวใจ

ทั้งนี้ หากคนได้รับสารสัมผัสผิวหนัง หรือเข้าตา ให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาดปริมาณมากๆ หรือสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์จะก่อให้เกิดการไหม้ที่บริเวณผิวหนังอย่างรุนแรง และทำลายดวงตา อาจเกิดอาการระคายเคืองต่อทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นสาเหตุที่จะทำลายทางเดินหายใจส่วนบน และปอดด้วย

ส่วนสาร Cyclohexanone ใช้เป็นตัวทำละลายเป็นสารอินทรีย์ที่ถูกสังเคราะห์มาจากคีโตน ไม่มีสีไวไฟ ละลายในน้ำได้น้อย ใช้ในอุตสาหกรรมเคลือบเงา ทำความสะอาด ทำสี ย้อมสีหรือตกแต่งสิ่งทอ หากสิ่งมีชีวิตหายใจเข้าไปจะมีอาการเช่นเดียวกับสารเปอร์ออกไซด์อินทรีย์อื่น ๆ

รู้จัก สารออกซิไดซ์ จากเหตุไฟไหม้แหลมฉบัง ก่ออันตรายต่อผู้คน-สิ่งแวดล้อม

สำหรับสาร class 5.1 คือ สารออกซิไดซ์ (Oxidizing substances) หมายถึง ของแข็ง หรือของเหลวที่ตัวของสารเองไม่ติดไฟ แต่ให้ออกซิเจนซึ่งช่วยให้วัตถุอื่นเกิดการลุกไหม้ และอาจจะก่อให้เกิดไฟเมื่อสัมผัสกับสารที่ลุกไหม้และเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง ตัวอย่างเช่น แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ โซเดียมเปอร์ออกไซด์ โซเดียมคลอเรต เป็นต้น

ขอขอบคุณที่มา : Sonthi Kotchawat
 

รู้จัก สารออกซิไดซ์ จากเหตุไฟไหม้แหลมฉบัง ก่ออันตรายต่อผู้คน-สิ่งแวดล้อม