
ปัจจุบันการทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหารเป็นไปโดยสมัครใจในมหานครนิวยอร์ก แต่ล่าสุด สภาเทศบาลเมืองนิวยอร์กอนุมัติร่างกฎหมายที่กำหนดให้ชาวเมืองนิวยอร์กต้องแยกขยะเศษอาหารออกจากถังขยะทั่วไปเพื่อนำไปทำปุ๋ยหมัก เช่นเดียวกับการแยกขยะและสิ่งของที่สามารถรีไซเคิลได้ซึ่งทำอยู่แล้วก่อนหน้านี้
เบื้องต้นนโยบายนี้จะเริ่มใช้ในบางเขตก่อน โดยจะเริ่มที่ Brooklyn และต่อด้วย Queens ในเดือนตุลาคมปีนี้ ก่อนจะต่อด้วย Bronx และ Staten Island ในเดือนมีนาคม 2024 และ Manhattan ในเดือนตุลาคม 2024 โดยเป้าหมายคือเพื่อลดปริมาณขยะอินทรีย์ที่เมืองส่งไปยังหลุมฝังกลบ ซึ่งก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกที่เรียกว่า “มีเทน” โดยก่อนนี้นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก เคยออกกฎนี้ในรูปแบบความสมัครใจ ทว่า กฎใหม่ที่กำลังจะเกิดนี้ถือเป็นภาคบังคับ
ทั้งนี้ ทางเทศบาลจะตั้งศูนย์เก็บขยะอินทรีย์ไว้ทำปุ๋ยในแต่ละเขต รวมถึงศูนย์รับขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถกำจัดขยะที่รีไซเคิลได้ และขยะอินทรีย์ไปให้หมดภายในปี 2030 ซึ่งจากรายงานเผยว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของขยะจากที่อยู่อาศัยในนิวยอร์กซิตี้เป็นขยะอินทรีย์และขยะมูลฝอย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากที่สุดของปริมาณขยะในนิวยอร์ก โดยตามรายงานในปี 2021 จากสำนักงานงบประมาณอิสระแห่งนครนิวยอร์ก เผยว่าสัดส่วนของขยะอินทรีย์คิดเป็นร้อยละ 37 ของขยะทั้งหมดในมหานครนิวยอร์ก ซึ่งต้องใช้เงินในการจัดการสูงกว่าขยะทั่วไป
แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญบางคนจะเชื่อว่าการบังคับใช้นโยบายในข้างต้นจะเป็นกุญแจสำคัญต่อความยั่งยืนทางการเงิน แต่ฝ่ายบริหารเชื่อว่าชาวนิวยอร์กต้องใช้เวลาในการปรับตัวให้เข้ากับระบบการปกครองใหม่ สำหรับกฎนี้จะบังคับใช้กับผู้คนที่อยูในตึก อาคาร คอนโดมิเนียม บ้านเรือน เว้นแต่คนที่อาศัยอยู่ในการเคหะของรัฐ เพราะไม่ได้อยู่ภายใต้กฎของเทศบาลนี้
เรื่องนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญสำหรับสหรัฐอเมริกาในการกำจัดขยะอาหาร ที่ก่อนหน้านี้ในซานฟรานซิสโกก็เริ่มกำจัดขยะอาหารแล้วเมื่อปี 2009 ขณะที่แคลิฟอร์เนียก็เริ่มทำแล้วเช่นกัน