"สธ.-กรมควบคุมมลพิษ" เร่งตรวจผลกระทบไฟไหม้โรงเก็บยาง เตือน ปชช. สวมแมสก์
โรงงานเก็บยางเก่าไฟยังลุกต่อเนื่อง "ผู้ว่าฯ แปดริ้ว" เร่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และกรมควบคุมมลพิษ เข้าพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบต่อสุขภาพ พร้อมเตือนให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัย
16 เมษายน 2566 ความคืบหน้าเหตุ ไฟไหม้โรงงานเก็บยางเก่า ในพื้นที่ ม.9 ตำบลหัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเพลิงได้โหมไหม้อย่างหนัก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิง เข้าควบคุมสถานการณ์ ทั้งนี้แม้เหตุการณ์จะผ่านไปแล้วกว่า 16 ชั่วโมง แต่ไฟยังคงลุกโหม กลุ่มควันดำพวยพุ่งแน่นท้องฟ้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา บริเวณรอบรัศมี 5 กิโลเมตร จากจุดที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บยาง ยังคงพบกลุ่มควันสีดำ พวยพุ่งแน่นท้องฟ้า สอบถามเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นำโดย นายธีระเกียรติ นพเกตุ นายก อบต. หัวสำโรง ระบุว่า ตอนนี้ รอระดมรดน้ำดับเพลิง จากทุกหน่วยงานอีกครั้ง
ตอนนี้ในพื้นที่ มีทีมทหาร ของกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ ร.112 พัน 2 เข้ามาสแตนบายในเช้านี้ เพื่อเตรียมเข้าร่วมปฏิบัติการดับเพลิง ที่ยังคงหลงเหลืออยู่อีกครั้ง
ขณะที่ พ.ต.อ.ปรีชา นิสัยสม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแปลงยาว จัดตำรวจสายตรวจดูแลงานจราจร อำนวยความสะดวกให้กับรถดับเพลิง ที่จะเข้าปฏิบัติติการณ์ในเช้านี้
ต่อมา นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง หลังจากที่เดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่เพื่อประเมินสถานการณ์ ตั้งแต่ 02.00 – 05.00 น. ของเมื่อคืนที่ผ่านมา และได้ร่วมประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่
ก่อนหน้านั้น นายขจรเกียรติ ระบุว่า สถานการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้ดีขึ้น ตั้งแต่ช่วงเวลา 03.00 - 04.00 น.ไฟเริ่มเบาบางลง ขณะนี้ได้ใช้รถแบคโฮ คุ้ยเศษยางและใช้น้ำฉีด ซึ่งตอนนี้อาจจะยังเห็นมีไฟลุกอยู่บ้างในบางจุด
สำหรับผลกระทบ ที่จะมีต่อประชาชนในพื้นที่นั้น นายขจรเกียรติ กล่าวว่า อาจจะมีผลกระทบ เพราะเนื่องจากการไหม้ นั้นเป็นยางรถยนต์ ซึ่งเป็นเคมี วันนี้จะให้ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และกรมควบคุมมลพิษ เข้าพื้นที่ตรวจสอบ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ และอำเภอข้างเคียง สวมใส่หน้ากากอนามัยก่อน
สำหรับสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้นั้น นายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอแปลงยาว กล่าวว่า น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร และเกิดลูกไฟกระเด็นมาที่กองยางรถยนต์เก่า ประกอบกับยางรถยนต์เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ลุกลามอย่างรวดเร็ว มูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้
นายวีกิจ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร บริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุนั้น พบกลุ่มควันไฟกระจายทั่วบริเวณ ส่งกลิ่นเหม็นไหม้ยางลอยมาตามลม อย่างไรก็ตามในวันนี้ ต้องรอการตรวจสอบค่ามลพิษ จากทางกรมควบคุมมลพิษ ในการวัดค่าทางอากาศ จึงขอให้ประชาชนใส่แมสก์ในช่วง 2 - 3 วันนี้ก่อน
