Faves สแน็ครักษ์โลกที่เปลี่ยนตำหนิสร้างตำนาน
กินเล่นๆ ได้ประโยชน์จริงๆ แถมช่วยโลกลดขยะ ไอเดียบรรเจิดของทายาทบริษัทผู้ผลิตลูกอมลูกกวาดกว่าร้อยปีในสหรัฐ กับแนวคิด Upcycle แปลงร่างผักผลไม้มีตำหนิสร้างตำนานอาหารของกินเล่น
เชื่อหรือไม่ว่าในแต่ละปีมีอาหารถูกทิ้งราว 930 ล้านตัน!!
ตัวเลขที่น่าตกใจจากสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ชี้ให้เห็นถึงปัญหาการจัดการขยะมหาศาลจากอาหารที่อาจกระทบกับสิ่งแวดล้อม โดยร้อยละ 10 ของก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยสู่บรรยากาศเกี่ยวข้องกับขยะจากอาหาร และด้วยกระแสคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) หรือปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์ยังคงเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจ ไม่เฉพาะกลุ่มผู้อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แต่ยังรวมไปถึงผู้ประกอบการในปัจจุบันด้วย ซึ่งเห็นได้จากการที่ผู้ประกอบการหลายรายต่างพากันรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ด้วยการ upgrade + recycle ทำให้เกิดกระบวนการที่เรียกว่า Upcycle ซึ่งเป็นการนำวัตถุดิบหรือวัสดุเหลือใช้ที่กำลังจะถูกทิ้งให้เป็นขยะไปแปรสภาพให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ซึ่งหนึ่งในผู้ประกอบการที่ยึดโยงแนวคิดนี้คือ “เพียวพลัส” (PurePlus) ผู้ประกอบการในแอลเอ ผู้ผลิตสแน็คแบรนด์ “Faves”
เอมี่ เคลเลอร์ หลานสาวของนอร์แมน สเปงเกลอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอเพียวพลัส ทายาทรุ่นที่สองของการกุมบังเหียนบริษัท สแปงเกลอร์ แคนดี้ โค. ผู้ผลิตลูกอม ลูกกวาด อมยิ้มและเวเฟอร์ ที่มีอายุเก่าแก่ถึง 117 ปีของสหรัฐ ผุดไอเดียใหม่จากการที่คลุกคลีในอาณาจักรขนมหวานตั้งแต่วัยเด็ก เอมี่เลือกทำธุรกิจในหมวดหมู่เดียวกันแต่แตกต่างในเรื่องแนวคิด โดยในปี 2018 เธอได้ชักชวนหุ้นส่วนก่อตั้งบริษัทเพียวพลัส เพื่อแปรรูปอาหารจากวัตถุดิบที่ไม่เป็นที่ต้องการ เพียวพลัสได้สร้างเครือข่ายเกษตรกรขึ้นมาและรับซื้อวัตถุดิบอันเป็นพืชผักผลไม้ที่ไม่สามารถจำหน่ายได้ เนื่องจากมีตำหนิหรือรูปลักษณ์ไม่สวยงามสมบูรณ์ แต่ยังสามารถบริโภคได้เพื่อนำมาแปรรูปเป็นผงผักผลไม้ที่สามารถนำไปใช้ประกอบอาหาร ทำขนม หรือเครื่องดื่ม รวมถึงการผลิตเป็นสแน็คต่างๆ
โดยจุดประสงค์หลักของเพียวพลัส คือการลดจำนวนขยะจากอาหารอันเป็นปัญหาใหญ่ด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณที่สูงจากที่คาดไว้ถึงสองเท่า และราวร้อยละ 10 ของก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยสู่บรรยากาศก็เกี่ยวข้องกับขยะจากอาหาร ยูเอ็นจึงตั้งเป้าจะลดปริมาณขยะจากอาหารลงครึ่งหนึ่ง ภายในปี 2030 ซึ่งเพียวพลัสต้องการมีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้
เอมี่ กล่าวว่า ไม่เพียงช่วยลดขยะจากอาหารเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม การนำผักผลไม้ที่ไม่สวยงามแต่ยังสามารถบริโภคได้มาแปรรูปเป็นขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ ยังเป็นทางเลือกสำหรับผู้ต้องการดูแลสุขภาพอีกด้วย ซึ่งหลังได้รับเงินทุนจากนักลงทุนราว 1.56 ล้านดอลลาร์ บริษัทตั้งเป้าจะใช้วัตถุดิบที่เป็นผักผลไม้มีตำหนิให้ได้ 2.2 ล้านชิ้นในปีนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ จึงจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นอีก โดยเล็งไว้ว่าสินค้าต่อไปที่จะผลิตคือ ลูกอมแบบแข็ง
ทั้งนี้ เพียวพลัสไม่ใช่บริษัทแรกและบริษัทเดียวที่มีแนวคิดในการลดขยะจากอาหาร ภายใต้คอนเซ็ปต์เพิ่มมูลค่าอาหารเหลือทิ้งด้วยการแปรรูปให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ยังมีบริษัทสตาร์ทอัพหลายรายได้รังสรรค์ผลิตภัณฑ์หลากหลายออกมาเช่นกัน อาทิ การแปรรูปเปลือกผลไม้ ไปจนถึงการผลิตพาสต้าจากวัตถุดิบต่างๆ ล่าสุด แบรนด์ผลิตภัณฑ์วีแกนหลายรายก็จับกระแสลดโลกร้อนลดขยะจากอาหารด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบที่ไม่สมบูรณ์เช่นกัน ยกตัวอย่าง Spudsy แบรนด์ขนมที่ทำจากมันเทศ โดย Spudsy ใช้มันฝรั่งที่ถูกคัดทิ้งเพราะมีตำหนิเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้ามากกว่า 150 ล้านตันต่อปี
ที่มา : https://www.smethailandclub.com
https://austinstartups.com/sxsw-pitch-finalist-pureplus-d5a6d01fb981
https://www.greenqueen.com.hk/pureplus-climate-candy-food-waste/