ประธานาธิบดีซาโลเม ซูราบิชวิลี แถลงเมื่อวันเสาร์ว่า เธอได้ใช้อำนาจยับยั้ง หรือ วีโต้ ร่างกฎหมาย “ตัวแทนต่างชาติ” ที่มีเนื้อหาและจิตวิญญาณของรัสเซีย และขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญของจอร์เจียและมาตรฐานของยุโรป
ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาเมื่อวันอังคาร โดยการเสนอของพรรคความฝันของจอร์เจีย ที่เข้าเป็นรัฐบาลในปี 2565 แม้มีประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ในกรุงทบิลิซี เมืองหลวงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา การใช้อำนาจวีโต้ของประธานาธิบดีไม่อาจขัดขวางร่างกฎหมายได้ เพราะพรรครัฐบาลมีเสียงในสภามากพอที่จะล้มล้างการวีโต้ของประธานาธิบดี
นักวิจารณ์มองว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้มีเนื้อหาคล้ายกับกฎหมายของรัสเซียที่ใช้ในการปิดปากผู้เห็นต่าง โดยกำหนดให้องค์กรพัฒนาเอกชน หรือ เอ็นจีโอ และสำนักข่าวต่าง ๆ ที่ไดรับเงินทุนเกินกว่า 20% จากต่างประเทศ ต้องจดทะเบียนในฐานะ “ตัวแทนที่แสวงประโยชน์ให้กับต่างชาติ“
แต่หากฝ่าฝืน และไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเงินทุนจากต่างชาติ ก็จะถูกลงโทษปรับ 25,000 ลารี และต้องถูกปรับเพิ่มอีก 20,000 ลารีต่อเดือน หากยังไม่ยอมปฏิบัติตามข้อบังคับ
บรรดาเอ็นจีโอและสื่อต่าง ๆ กลัวว่า จะถูกสั่งปิด หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และนักวิจารณ์มองว่า ร่างกฎหมายจำกัดเสรีภาพสื่อและจะทำลายความพยายามของจอร์เจียที่จะเข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปหรืออียู และผู้คัดค้านร่างกฎหมาย มองว่า ร่างกฎหมายจะทำให้จอร์เจียใกล้ชิดกับรัสเซียมากขึ้น ขณะที่รัฐบาลจอร์เจีย ยืนยันว่า ร่างกฎหมายมุ่งส่งเสริมความโปร่งใส และจำกัดอิทธิพลของต่างชาติต่อประเทศที่มีประชากร 3.7 ล้านคน
ประชาชนหลายร้อยคนออกมาชุมนุมนอกอาคารรัฐสภาในกรุงทบิลิซีในค่ำวันเสาร์ เพื่อเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาถอนร่างกฎหมายออกจากสภา หลังจากประธานาธิบดีใช้อำนาจวีโต้ พวกเขาบอกว่า ต้องการให้จอร์เจียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอียู และไม่ต้องการมีรัฐบาลเหมือนรัสเซีย นอกจากนี้ผู้ชุมนุมยืนยันจะปักหลักประท้วงต่อไป หากพรรครัฐบาลสามารถล้มล้างการวีโต้ของประธานาธิบดี
ทั้งจอร์เจียและรัสเซียมีความสัมพันธ์ตึงครียดนับจากจอร์เจียประกาศแยกตัวเป็นเอกราช หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 2534 และจอร์เจียยื่นใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปหรืออียูในปี 2565 และได้รับสถานะผู้สมัครเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่อียูเตือนล่าสุดว่า ร่างกฎหมายตัวแทนต่างชาติจะเป็นอุปสรรคร้ายแรงสำหรับจอร์เจีย ที่จะเข้าเป็นสมาชิกอียู