
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ปรับ ครม.ใหม่ สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการโยก "เซอร์เก ชอยกู" วัย 68 ปี จากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม ไปนั่งตำแหน่งเลขาธิการความมั่นคงแห่งชาติ และตั้งอดีตรองนายกรัฐมนตรี "อังเดร เบลูซอฟ" วัย 65 ปี ที่เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์มาแทน และถูกมองว่าเป็นแค่ "หุ่นเชิด" เพราะเขาเป็นพลเรือนและความรู้ด้านการทหารเป็นศูนย์ ที่บ่งชี้ว่าปูตินจะกุมบังเหียนเองทั้งหมด เพราะไม่เหลือความอดทนต่อชอยกูที่ปิดจ็อบยูเครนไม่ลงเสียที เพราะนับตั้งแต่สงครามเปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปี 2565 จนถึงตอนนี้ รัสเซียสูญเสียทรัพยากรและกำลังพลไปมากเกินความคาดหมาย แม้ในช่วงที่ยูเครนขาดแคลนการสนับสนุนด้านยุทโธปกรณ์จากตะวันตก รัสเซียก็ยังเผด็จศึกยูเครนไม่ได้
โฆษกทำเนียบเครมลินอ้างว่า ที่ต้องใช้รัฐมนตรีกลาโหมที่มีความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ ก็เพราะต้องรักษา "นวัตกรรม" ไว้ และคุมการใช้จ่ายด้านกลาโหมให้ดีขึ้นเพื่อชัยชนะในยูเครน แต่ในความเป็นจริงคือ ปูตินหมดความไว้เนื้อเชื่อใจชอยกู ที่ดำรงตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 2555 ถือว่าเป็นรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุดในรัฐบาล
ปูตินได้ชื่อว่า "อุ้ม" ชอยกูมาโดยตลอด แม้จะเผชิญความพ่ายแพ้ตั้งแต่ช่วงปีแรกของสงคราม ที่นำไปสู่ความความบาดหมางรุนแรงระหว่างเขากับ เยฟเกนี พริโกซิน ผู้ก่อตั้งและหัวหน้ากองทหารรับจ้าง "แว้กเนอร์ กรุ๊ป" (Wagner Group) ที่ลุกขึ้นมาต่อต้านเมื่อปีที่แล้ว เพื่อเรียกร้องให้ถอดชอยกูออก
การไปรับตำแหน่งใหม่ของชอยกู คือการไปแทนที่ นิโคไล เปตรูเชฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักความมั่นคงกลาง (FSB) วัย 72 ปี ที่ดำรงตำแหน่งนี้มานาน และขึ้นชื่อเรื่องการเป็นเจ้าทฤษฎีต่อต้านตะวันตกรุนแรง และเป็นคนวงในใกล้ชิดที่สุดของปูติน ทั้งยังมีบทบาทสำคัญในสงครามที่ทำให้ทหารรัสเซีย 450,000 คน เสียชีวิตหรือพิการ แต่คาดว่าเขาจะไปรับตำแหน่งใหม่ที่ยังไม่มีการเปิดเผยในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
การปรับ ครม.ครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็นการปรับเอาคนที่มีผลงานไม่เป็นที่สบอารมณ์ปูตินออก โดยเฉพาะชอยกู หลังจากมีภาพเขาแสดงสีหน้าไม่มั่นใจอย่างเห็นได้ชัด ตอนที่ถูกสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ว่า รัสเซียจะชนะสงครามหรือไม่ และได้แต่ตอบแบบเลี่ยง ๆ ว่า "เราไม่มีทางเลือกอื่น"