svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

เมื่อซีดีอัลบั้มเพลงโปรดอาจทำร้ายโลก กลายเป็นของสะสมที่ต้องสะสาง

14 มีนาคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

มีใครชอบเก็บสะสมซีดีหรือดีวีดีอัลบั้มเพลงของศิลปินที่ชอบเหมือนกันไหม รู้หรือเปล่าว่าสินค้าพวกนี้จริงๆแล้วก็ไม่ดีต่อโลกเหมือนกัน

ทุกวันนี้คงไม่ค่อยมีใครฟังเพลงผ่านแผ่นซีดีกันเป็นประจำแล้ว แต่เชื่อว่าหลายคนก็มองว่าการซื้อซีดีมาเก็บสะสมไว้ก็เป็นอีกหนทางที่จะสนับสนุน ช่วยให้นักร้องนักดนตรีที่เราชื่นชอบมีรายได้เพิ่มขึ้น ให้ผลงานเพลงของพวกเขาอยู่คู่กับโลกเราไปนานๆ โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังทำร้ายโลกใบนี้ไปพร้อมๆกัน 

ปัญหาหลักๆ นอกจากกระบวนการผลิตที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศเป็นจำนวนมาก ก็คือการที่แผ่นซีดีผลิตมาจากวัสดุหลายๆชนิดผสมกัน ส่วนใหญ่จะเป็นโพลีคาร์บอเนตและอะลูมิเนียม ซึ่งพอผสมกันหลายชนิด ก็ทำให้ซีดีไม่สามารถนำกลับไปแยกชิ้นส่วนเพื่อรีไซเคิลได้ ถึงจะทำได้ก็ลำบากและมีต้นทุนสูงมาก

หากวันหนึ่งซีดีเหล่านี้ถูกทิ้งให้เป็นขยะ สิ่งที่เกิดขึ้นคือไม่สามารถนำมันไปทำลายได้ โดยเฉพาะกับกระบวนการเผาทำลาย เพราะจะทำมีการปล่อยสารพิษตกค้างอยู่ในอากาศ หรือปนเปื้อนไปกับน้ำ เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์

เมื่อซีดีอัลบั้มเพลงโปรดอาจทำร้ายโลก กลายเป็นของสะสมที่ต้องสะสาง

วิธีที่นิยมใช้เพื่อกำจัดซีดีก็คือการนำไปฝังกลบ อาจจะลดโอกาสปล่อยสารพิษอันตรายก็จริง แต่กว่าที่มันจะย่อยสลายไปตามธรรมชาติ อาจต้องใช้เวลานานถึง 100 ปี หรืออาจนานกว่านั้น

ปัญหาผลกระทบของแผ่นซีดี-ดีวีดี ที่มีต่อภาวะโลดร้อน เป็นเรื่องที่ถูกจับตากันมานานแล้ว และมีผู้ที่พยาพยามหาวิธีแก้ไข เช่น บริษัทที่ยอมลงทุนสูงมากเพื่อนำซีดีหรือดีวีดีเก่าไปรีไซเคิลให้เป็นพลาสติกคุณภาพสูงที่ใช้ในชิ้นส่วนรถยนต์ อุปกรณ์สำนักงาน แผงสัญญาณเตือนภัย , ไฟถนน, ฉนวนสายไฟฟ้า, กล่องใส่อัญมณี และสินค้าพิเศษอื่นๆ แต่เราก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมด้วยส่วนหนึ่ง

หรือจะเลือกซื้อซีดีที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ อย่าง Polylactic acid (PLA) เป็นพลาสติกทดแทนที่ทำมาจากข้าวโพด ที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ น่าเสียดายที่ยังมีข้อเสียตรงต้นทุนการผลิตที่คอนข้างสูงจึงยังไม่สามารถทดแทนการผลิตซีดีแบบเดิมได้เท่าที่ควร

และอีกทางเลือกคือการหันไปสนับสนุนศิลปินด้วยวิธีอี่น  เช่น สมัครสมาชิกแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่างๆเพื่อรับฟังเพลงอย่างถูกกฎหมาย

นอกจากนี้ยังมีสินค้าจากศิลปินอื่นๆที่สร้างผลกระทบเช่นกัน เช่น เสื้อยืดสกรีนลายชื่อวงต่างๆที่หลายคนซื้อมาแล้วอาจจะได้ใส่ไม่กี่ครั้งหรือไม่ได้ใส่เลย ซึ่งกรณีนี้ก็เคยตกเป็นประเด็นเมื่อช่วงประมาณสิบกว่าปีที่แล้ว มีวงดนตรีชื่อ Bomb the Music Industry! ตัดสินใจไม่จำหน่ายเสื้อวง แต่ทุกคนสามารถใส่เสื้อยืดธรรมดาหรือเสื้ออะไรก็ได้มาที่คอนเสิร์ตแล้วให้พวกเขาเพนท์โลโก้ของวงลงไปบนเสื้อพวกนั้นได้ ก็เป็นอีกแนวทางที่ดีมากๆ

อย่าลืมว่าเรามีวงดนตรีที่ต้องสนับสนุนแล้วเราก็ยังมีโลกให้ช่วยกันดูแลด้วย

logoline