รู้ก่อนซื้อ ขวด-แก้วน้ำพกพา ควรเลือกแบบไหนดี?

ในยุคที่หลายคนหันมาใส่ใจความเป็นไปของโลก รวมถึงต้องประหยัดค่าใช้จ่ายประจำวัน การมีขวดน้ำหรือแก้วน้ำพกพาก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทำได้ง่าย ซึ่งหากจะเลือกซื้อขวดน้ำพกพาสักขวด นอกจากรูปร่างดีไซน์ดูดีก็จะเลือกจากฟังก์ชันการใช้งาน เช่น ขนาดเล็ก-ใหญ่ มีฝาเปิดปิด เก็บอุณหภูมิร้อนเย็น หรือมีหูหิ้วถือไปไหนมาไหนได้ 

แต่สิ่งที่หลายคนอาจจะยังมองข้ามไปเวลาเลือกซื้อขวดน้ำพกพาก็คือ การเลือกวัสดุ 

แน่นอนว่าส่วนใหญ่ขวดพกพาก็จะทำมาจากวัสดุที่ใช้ซ้ำได้เพื่อให้เป็นมิตรต่อธรรมชาติอยู่แล้ว แต่วัสดุทุกชนิดก็มีคุณสมบัติข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันไป วันนี้มาดูกันว่าถ้าจะซื้อขวดน้ำพกพาสักขวด เลือกวัสดุแบบไหนกันดี

1. สแตนเลส
ขวดหรือแก้วน้ำสแตนเลสเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมที่สุด เพราะมีความทนทานสูง สามารถใช้กับเครื่องดื่มร้อน-เย็นก็ได้ และเก็บอุณหภูมิได้ดี มีความทนทาน น้ำหนักเบาเหมาะกับการพกพา ที่สำคัญสามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ 100%!

2. แก้ว
ขวดแก้วน่าจะเป็นวัสดุที่ไม่ได้รับความนิยม เพราะค่อนข้างหนักและเปราะบาง แต่ข้อดีคือแก้วเป็นวัสดุที่มีความเสถียรทางเคมีสูง ไม่ต้องกังวลเลยใส่เครื่องดื่มแล้วจะมีสารเคมีจากวัสดุที่ปนเปื้อนในน้ำ เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยเหมาะสำหรับคนที่ใช้งานในบ้านหรือออฟฟิศไม่ได้เดินทางไปไหนไกล

3. อลูมิเนียม
อลูมิเนียมเป็นวัสดุน้ำหนักเบาที่สุดที่นำมาใช้ทำขวดน้ำพกพาได้หลายรูปแบบ มีความทนทานไม่แตกหักง่าย สามารถรีไซเคิลได้เหมือนกัน แต่ข้อเสียคือกระบวนการผลิตอลูมิเนียมไม่ได้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 100% เพราะมีขั้นตอนที่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับหนึ่ง โดยมีการประมาณกันคร่าว ๆ ว่า ถ้าซื้อขวดหรือแก้วอลูมิเนียมมาใช้จะต้องใช้งานซ้ำให้มากกว่า 50 ครั้งขึ้นไป ถึงจะนับว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

4. พลาสติก
พลาสติกก็เป็นอีกวัสดุที่ได้รับความนิยม เพราะมีสีโปร่งแสงคล้ายกับแก้วแต่มีน้ำหนักเบากว่ามาก เวลาได้เห็นน้ำด้านในขวดก็จะรู้สึกสบายใจว่าน้ำสะอาดไม่มีอะไรเจือปน แต่การเลือกซื้อขวดพกพาแบบพลาสติก ต้องเลือกให้ดีว่าเป็นพลาสติกประเภทที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และไม่มีความเสี่ยงด้านสารเคมีที่อาจชะล้างลงในเครื่องดื่มของเรา อย่างเช่น พลาสติกจากโพลีโพรพีลีน (PP) แบบเดียวที่ใช้ทำบรรจุภัณฑ์อาหาร หรือ โพลีเอทิลีนความหนาแน่นสูง (HDPE) ที่มีความทนทานต่อความร้อนและสารเคมี 

ส่วนขวดที่ทำจากพลาสติก PET หรือขวดน้ำดื่มตามร้านค้าที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง แน่นอนว่ามีประโยชน์ในเรื่องของความสะดวกสบาย แต่ถ้าลองมาคำนึงถึงข้อเสียกันดูดี สิ่งที่ต้องแลกมาการสร้างของเสียที่เริ่มตั้งแต่ตอนผลิตที่ต้องใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล การขนส่งสินค้าที่ต้องใช้น้ำมัน พอดื่มเสร็จโยนขวดทิ้งก็กลายเป็นขยะมูลฝอยที่ใช้เวลากว่า 450 ปี ในการย่อยสลาย ที่สำคัญที่สุดคือเสียเงินในกระเป๋า เพราะราคาที่ต้องจ่ายถ้าเราซื้อน้ำดื่มวันละขวดทุกวันก็อย่างน้อยปีละ 3,650 บาทแล้ว

ยังไม่สายที่จะออกไปเดินชอปปิงหาซื้อขวดน้ำประจำตัวที่ดูดีมีสไตล์สักขวด นอกจากจะถือไปไหนมาไหนเท่ ๆ แล้วยังประหยัดเงิน และช่วยโลกใบนี้เอาไว้ได้ด้วย