ไม่ใช่แค่คนดัง! พบ AI ขโมยภาพหญิงสาวทั่วโลกไปสร้างคลิปลามกอนาจาร

จากกรณีที่มีคลิปของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ นักร้องสาวชื่อดัง ถูกแชร์บน X (หรือทวิตเตอร์) ซึ่งเป็นภาพลามกที่ถูกสร้างโดยการปลอมแปลงใบหน้าด้วยเทคโนโลยี AI Deepfake โดยที่เจ้าตัวไม่รับทราบและไม่ยินยอม สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลก ถึงความปลอดภัยของข้อมูลและใบหน้าบนโลกอินเตอร์เน็ต จนล่าสุดทาง X ต้องออกมาปิดคำค้นหาชื่อของ "Taylor Swift" ออกจากระบบชั่วคราว พร้อมเร่งลบภาพและคลิปที่เป็นประเด็นอย่างรวดเร็ว

แต่สวิฟต์ ไม่ใช่เหยื่อรายแรกของเหตุการณ์แบบนี้ หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นประเด็นร้อน เนื่องจากความไม่พอใจของแฟนคลับจำนวนมาก ก็กลายเป็นการขุดคุ้ยเอาเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับเหยื่อรายอื่นๆทั่วโลกออกมาใช้สังคมได้รับทราบถึงความน่ากลัวของเทคโนโลยีที่ถูกใช้ในทางที่ผิด

สิ่งเดียวที่แตกต่างกันคือ สวิฟต์มีแฟนคลับจำนวนมหาศาลที่พร้อมจะออกมาปกป้องและกดรีพอร์ตเพื่อให้ระบบลบคลิปวิดีโอที่เป็นปัญหาออกจากแพลตฟอร์มนั้นได้อย่างรวดเร็ว แต่เหยื่อคนอื่นๆทั่วโลกต่างต้องต่อสู้และเผชิญกับผลกระทบที่ร้ายแรงตามลำพัง

ใครบ้างที่ตกเป็นเหยื่อ
มีนักเรียนหญิงระดับมัธยมปลายจำนวนมากจากทั่วโลก ที่ใบหน้าของพวกเธอถูกนำไปปลอมแปลงและควบคุมการกระทำด้วย AI กลายเป็นวิดีโอลามกที่ได้รับการเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว

หนึ่งในนั้นคือสตรีมเมอร์สาวชื่อดังจากแพลตฟอร์ม Twitch ก็ได้พบว่าใบหน้าของเธอถูกนำไปใช้ในวิดีโอลามกอนาจารที่ถูกปลอมแปลงขึ้นมา และถูกแชร์จนแพร่กระจายในชุมชนเกมทั่วโลกภายในชั่วข้ามคืน

ศาสตราจารย์แดเนียล ซิตรอน จากภาควิชากฎหมาย มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียร์ ออกมาเตือนว่า

นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของคนดังที่ตกเป็นเหยื่อ แต่เป็นเรื่องที่เกิดได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน ครูอาจารย์ พยาบาล หรือแม้แต่นักกฎหมาย มันเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อทุกคน

กฎหมายยังจัดการไม่ได้
กลายเป็นว่าต้องรอให้มีคนดังระดับโลกอย่างเทย์เลอร์ สวิฟต์ ตกเป็นเหยื่อ ถึงสามารถดึงความสนใจจากสังคมและรัฐบาลให้มองเห็นถึงปัญหาที่เพิ่มขึ้นจากความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี AI โดยที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯและอีกหลายประเทศก็ยังไม่มีกฎหมายหรือขอบเขตใดๆที่สามารถเข้ามาควบคุมได้ ทำให้การปราบปรามเป็นเรื่องยาก 

ศาสตราจารย์ซิตรอนชี้ว่า แม้จะเป็นกรณีที่เกิดขึ้นกับนักเรียน แต่เรากลับไม่สามารถทำการลงโทษภายใต้กฎหมายว่าด้วยสื่อลามกอนาจารเด็กได้ ในแง่ที่ว่า "มันไม่มีการล่วงละเมิดทางเพศเด็กเกิดขึ้นจริง" แต่ความอัปยศอดสู ความรู้สึกที่กลายเป็นวัตถุทางเพศ กลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงภายในใจของเหยื่อ และมันได้ทำลายความภาคภูมิในใจตนเอง ทำลายความเชื่อมั่นของการอยู่ในสังคมไปแล้ว

เราปกป้องตัวเองได้แค่ไหน
เราอาจสามารถทำตามขั้นตอนเล็กๆ น้อยๆ เพื่อช่วยป้องกันตนเองจากการถูกนำใบหน้าไปใช้ในภาพที่ไม่ได้รับความยินยอม

เดวิด โจนส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยคอมพิวเตอร์  จาก Firewall Technical แนะนำว่า ผู้คนควรพิจารณาเก็บโปรไฟล์โซเชียลมีเดียไว้ในระดับ "ส่วนตัว" และแบ่งปันภาพถ่ายเฉพาะกับคนรู้จักที่เชื่อถือได้เท่านั้น เพราะเทคโนโลยีในการปลอมแปลงในปัจจุบันจำเป็นต้องใช้ภาพถ่ายจำนวนมากที่แสดงใบหน้าในมุมที่ต่างกัน 

นอกจากนี้ยังต้องระวังการถูกล้วงข้อมูลจากแฮกเกอร์ที่พยายามเข้าถึงรหัสผ่านบัญชีโซเชียลมีเดีย เพื่อเข้าถึงรูปภาพและวิดีโอที่คุณแชร์ได้ ดังนั้นอย่าใช้รหัสผ่านที่ง่ายเกินไป อย่าจดบันทึกหรือแบ่งปันรหัสผ่านกับใคร และใช้การผูกเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลล์ในการลงชื่อเข้าใช้สองขั้นตอนเพื่อให้บัญชีมีความปลอดภัยมากที่สุด