คณะผู้แทนของสหรัฐฯ ที่ประกอบด้วย สตีเฟน แฮดลีย์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ, ลอรา โรเซนเบอร เกอร์ ประธานสถาบันอเมริกันในไต้หวัน และเจมส์ สไตน์เบิร์ก อดีตรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ เดินทางถึงกรุงไทเปเมื่อวันอาทิตย์เพียงหนึ่งวันหลัง ไล่ ชิงเต๋อ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันเสาร์
ทั้งสามคนเข้าพบปะประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ซึ่งแฮดลีย์ยืนยันว่าพันธะที่สหรัฐฯ มีต่อไต้หวันยังคงแข็งแกร่ง และสหรัฐฯ มุ่งสานต่อความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ ภายใต้การนำของรัฐบาลใหม่ไต้หวัน และร่วมรักษาสันติภาพและเสถียรภาพข้ามช่องแคบไต้หวัน
คณะผู้แทนสหรัฐฯ ยังเข้าพบกับ ไล่ ชิงเต๋อ ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ ก่อนเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 ซึ่งนายไล่กล่าวแสดงความหวังว่า สหรัฐฯ จะยังให้การสนับสนุนและกระชับความร่วมมือกับไต้หวันต่อไป
การเยือนยังมีขึ้นหลังกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ แสดงความยินดีกับนายไล่ที่ชนะการเลือกตั้ง และบอกด้วยว่ารอคอยที่จะได้ทำงานร่วมกับไล่และผู้นำทุกพรรคในไต้หวัน เพื่อส่งเสริมผลประโยชน์และค่านิยมร่วมกัน และกระชับความสัมพันธ์อย่างไม่เป็นทางการยาวนาน
ก่อนหน้านี้ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความยินดีกับชัยชนะของไล่ผ่านทางโพสต์ในโซเชียลมีเดีย และแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ โดยบอกว่ายินดีกับนายไล่และชาวไต้หวันที่ได้มีส่วนร่วมในการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม และแสดงพลังความเข้มแข็งของระบบประชาธิปไตย พร้อมทั้งบอกว่า สหรัฐฯ รอคอยที่จะได้ทำงานร่วมกับนายไล่และผู้นำทุกพรรคในไต้หวัน เพื่อส่งเสริมผลประโยชน์และค่านิยมร่วมกัน และกระชับความสัมพันธ์อย่างไม่เป็นทางการยาวนาน
กระทรวงต่างประเทศของจีนออกแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ ตอบโต้ข้อความของบลิงเคนว่า เป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงต่อหลักการจีนเดียว กับแถลงการณ์ร่วมระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งจีนประณามอย่างรุนแรงและคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อการกระทำของสหรัฐฯ ที่เป็นการส่งสัญญาณที่ผิดร้ายแรง ถึงกองกำลังแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนเอกราชของไต้หวัน พร้อมกับย้ำไม่ให้สหรัฐฯ ติดต่อสัมพันธ์อย่างเป็นทางการใด ๆ กับไต้หวัน และเตือนไม่ให้สหรัฐฯ สนับสนุนเอกราชของไต้หวัน และไม่ใช่ไต้หวันเป็นเครื่องมือในการขัดขวางจีน