
นายไล่ และนางเซียว บิคิม ผู้สมัครรองประธานาธิบดี ประกาศชัยชนะต่อผู้สนับสนุนร่วมกัน หลังจากสามารถทำให้พรรค DPP สร้างประวัติศาสตร์เป็นพรรคแรกที่ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 3 นับจากไต้หวันจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีโดยตรงครั้งแรกในปี 2539
เขายืนยันด้วยว่า ไต้หวันภายใต้การนำของประธานาธิบดีไช่ ไม่ได้มีการกระทำเชิงยั่วยุใด ๆ และไต้หวันต้องการเพียงรักษาวิถีชีวิตที่เสรีและมีประชาธิปไตยเท่านั้น
นายไล่ยังจะเผชิญความท้าทายในการผลักดันผลักดันนโยบายและถูกตรวจสอบมากขึ้นในสภานิติบัญญัติ หลังจากพรรค DPP ไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภา โดยพรรค DPP ได้รับเลือกตั้งเพียง 51 ที่นั่งจากทั้งหมด 113 ที่นั่งในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันเสาร์ และพรรค KMT ได้ 52 ที่นั่ง และพรรค TPP ได้ 8 ที่นั่ง ขณะที่ผู้สมัครอิสระอีก 2 คนแสดงจุดยืนยันสนับสนุน KMT
ขณะที่จีนออกมาย้ำทันทีว่า ผลเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันไม่อาจหยุดยั้งแนวโน้มที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของการรวมชาติระหว่างจีนและไต้หวัน โดยระบุว่า “จุดยืนของเราเกี่ยวกับปัญหาไต้หวันและการรวมชาติยังคงเหมือนเดิม และความมุ่งมั่นของเรายังหนักแน่นแข็งแกร่งดุจหิน” นอกจากนี้จีนยังแสดงความเห็นที่พรรค DPP เสียเสียงข้างมากในสภาด้วยว่า ผลเลือกตั้งสะท้อนว่า พรรคนี้ยังไม่อาจเป็นตัวแทนความเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ของไต้หวันได้
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อถามถึงผลเลือกตั้งในไต้หวันว่า “เราไม่ได้สนับสนุนเอกราช”