บริษัท เมดิเตอเรเนียน ชิปปิง คอมพานี (MSC) ซึ่งเป็นบริษัทเดินเรือขนส่งตู้สินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ออกแถลงการณ์ว่า สถานการณ์ในบริเวณทะเลแดงอันตรายร้ายแรง จึงต้องเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือ หลังจากเรือ เอ็มเอสซี พาลาเทียม 3 (MSC PALATIUM III) ถูกโจมตีเมื่อวันศุกร์ขณะแวะทรานซิตในทะเลแดง โดยไม่มีลูกเรือได้รับบาดเจ็บ แต่เรือต้องหยุดใช้งาน ขณะนี้เรือลำอื่น ๆ ของบริษัทได้เปลี่ยนเส้นทางไปผ่านแหลมกู๊ดโฮปตอนใต้สุดของทวีปแอฟริกาแทน
ก่อนน้านี้บริษัท CMA CGM ของฝรั่งเศส เพิ่งตัดสินใจระงับการเดินเรือในทะเลแดง เช่นเดียวกับบริษัท เมอสก์ ของเดนมาร์ก และบริษัท ฮาแพค-ลอยด์ ของเยอรมนี
การตัดสินใจมีขึ้นหลังจากกบฏฮูตีในเยเมน ที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน พุ่งเป้าโจมตีเรือสินค้าที่มีชาวอิสราเอลเป็นเจ้าของ หรือเรือเดินทางมุ่งหน้าไปอิสราเอล
ฮูตีประกาศให้การสนับสนุนฮามาส หลังจากอิสราเอลเปิดปฏิบัติการทางทหารเพื่อกวาดล้างฮามาสในฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม และฮูตีเพิ่มการโจมตีด้วยโดรนและจรวดใส่เรือบรรทุกสินค้าของต่างชาติ รวมถึงปล่อยโดรนและยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลด้วย
ผู้เชี่ยวชาญ มองว่า การตัดสินใจของบริษัทเดินเรือขนส่งตู้สินค้ายักษ์ใหญ่ 4 รายจาก 5 อันดับแรกของโลก จะส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้า ต้นทุน และซัพพลายเชนทั้งหมด และต้นทุนทั้งในเรื่องลูกเรือ เชื้อเพลิง และการประกันภัย จะถูกผลักภาระให้กับผู้บริโภคนอกจากนี้ผลกระทบยังอาจขยายวงกว้างถึงตลาดน้ำมันของโลกและต้นทุนของพลังงานที่ผู้บริโภคต้องแบกรับ