อิสราเอลเตรียมส่งบูลโดเซอร์ "เทดดี แบร์" บุกรังฮามาส

หลังจากใช้ชีวิตอย่างปกติเมื่อ 14 วันก่อน ณ ตอนนี้ ชาวอิสราเอลที่ถูกเรียกระดมพลเข้ารับใช้ชาติ หลังเกิดหตุโจมตีของกลุ่มติดอาวุธของฮามาสอย่างไม่คาดฝัน เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 กำลังเตรียมตัวเตรียมใจพร้อมเข้าสู่สงครามที่ไม่ต่างจากนรกในฉนวนกาซา เพื่อเผชิญหน้ากับผู้ก่อการร้ายฮามาส หนึ่งในทหารหญิงที่ถูกเรียกตัวกลับเข้ารับใช้ชาติเปิดเผยว่า

"มันค่อนข้างแตกต่างจากสิ่งที่ฉันทำเมื่อสองสัปดาห์ก่อนนั่นแน่นอน แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปในวันที่ 7 ตุลาคม"

"นี่คือการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของเรา เราได้รับการฝึกฝนมาเพื่อสิ่งนี้และเราจะชนะ"

การโจมตีของฮามาสที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 1,400 คน ทำให้อิสราเอลต้องเรียกระดมพลทหารกองหนุน 370,000 นาย หลายคนต้องทิ้งงานประจำ ด้านนอกฐานทัพเต็มไปด้วยรถยนต์ของพวกเขาที่เข้าไปลงชื่อรับใช้ชาติ ในขณะที่ประชาชนทั้งในอิสราเอลและกาซา ต่างเตรียมพร้อมรับสงครามนองเลือด ที่อิสราเอลประกาศจะบดขยี้รอบทิศทาง ทั้งทางบก ทางทะเลและทางอากาศ จนกว่าจะได้รับชัยชนะ



การบุกเพื่อเผด็จศึกฮามาสคร้้งนี้อยู่ภายใต้ "ปฏิบัติการดาบเหล็ก" (Swords of Iron) โดยมีรถถัง, ทหารบูโลเซอร์หุ้มเกราะ โดยเฉพาะรถหุ้มเกราะขึ้นชื่อในเรื่องความน่าเกรงขามและอันตรายสำหรับชาวปาเลสไตน์ ที่เคยเจอขีดความสามารถในการทำลายของมันมาก่อน

บูลโดเซอร์ "คาเตอร์พิลลาร์  D9R (Caterpillar D9R) มีชื่อเรียกเล่นว่า "ดูบี้" (Doobi) เป็นภาษาฮิบรู ที่มีความหมายว่า "เทดดี แบร์" (teddy bear) ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำลายรั้ว ตะลุยถนนในเมืองที่ซับซ้อนเหมือนเขาวงกตในเมือง, ทะลุทะลวงเครือข่ายอุโมงค์, ทำลายกับดัก และตำแหน่งของสไนเปอร์ที่รอทหารอิสราเอลอยู่



การพร้อมเปิดฉากสงคราม มีขึ้นในขณะที่ฮามาสเสนอขอปล่อยตัวประกันบางส่วน เพื่อแลกกับการหยุดยิงทันที โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ปล่อยตัวประกันสองแม่ลูกชาวอเมริกัน โดยการไกล่เกลี่ยของกาตาร์ โดยอ้าง "เหตุผลด้านมนุษยธรรม" ในขณะที่กองกำลังป้องกันประเทศของอิสราเอล หรือ IDF ได้เผยแผนสงคราม 3 เฟส (hree-phase war) ออกมาแล้ว และเป็นครั้งแรกที่อิสราเอลจัดทำแผนระยะยาว เพื่อจัดการกับความขัดแย้งที่นองเลือดที่สุดในรอบหลายทศวรรษ



เชื่อว่าเมื่อเทดดี แบร์ บุกกรุยทาางเข้าสู่กาซา ขบวนรถถังเมอร์คาวา (Merkava) ที่ภาษาฮิบรูเรียกว่า "ขาเรียต" (chariot) และที่ได้ชื่อว่า เป็นหนึ่งในรถถังที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา จะบุกตามเข้าไป ตามที่โยอัฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล พูดกับเหล่าทหารเมื่อวันพฤหัสบดี (20 ตุลาคม 2566) ว่าพวกเขาจะได้เห็นกาซาชัด ๆ ในเร็ว ๆ นี้ คนที่เคยเห็นกาซาจากข้างนอกก็จะได้เห็นจากข้างใน ในอีกไม่นานนี้



สำนักงานเพื่อผู้อพยพชาวปาเลสไตน์ของสหประชาชาติระบุว่า กาซาตอนนี้กลายเป็น "หลุมนรก" สำหรับพลเรือน และเวลาในการรับความช่วยเหลือเข้าไปในดินแดนแห่งนี้กำลังใกล้จะหมดลง ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการโจมตีฉนวนกาซามีมากกว่า 4,100 คนแล้ว ท่ามกลางความวิตกว่า มีเด็ก 600 คน ที่สูญหายภายใต้ซากอาคารที่พังถล่ม