ฝรั่งเศสห้ามรวมตัวประท้วงสนับสนุนปาเลสไตน์ จับกุมผู้ชุมนุม

ตำรวจฝรั่งเศสพร้อมอุปกรณ์ระงับเหตุจลาจล ได้ใช้แก๊สน้ำตาและหัวฉีดน้ำแรงดันสูง เข้าสลายการชุมนุมของผู้สนับสนุนชาวปาเลสไตน์ ที่กรุงปารีส เมื่อวันพฤหัสบดี (12 ตุลาคม) โดยทางการฝรั่งเศสได้สั่งห้ามการรวมตัวประท้วงเพื่อสนับสนุนปาเลสไตน์ ซึ่งหากใครที่ฝ่าฝืน หากเป็นผู้ลี้ภัยหรือชาวต่างชาติ อาจจะถูกส่งตัวกลับประเทศ

การประท้วงสนับสนุนปาเลสไตน์ที่เกิดขึ้นที่จตุรัส Place de la République ใจกลางกรุงปารีส มีคนออกมาร่วมการชุมนุมราว 3,000 คน และผู้ประท้วงได้ถือป้ายข้อความหรือตะโกนด่าทออิสราเอลว่าเป็นฆาตกร ซึ่งตำรวจได้เข้ามาสลายการชุมนุม และมีผู้ถูกจับกุม 10 คน โดย เจรัลด์ ดาร์มาแนง รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศส อธิบายว่าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ประท้วงสนับสนุนปาเลสไตน์ ได้กระทำการหลายอย่างที่รบกวนความสงบเรียบร้อยของสาธารณะ จึงต้องมีคำสั่งห้ามชุมนุม

กลุ่มผู้ชุมนุมสนับสนุนปาเลสไตน์ในฝรั่งเศสมองว่าไม่ยุติธรรมที่รัฐบาลสั่งห้ามฝ่ายสนับสนุนปาเลสไตน์ชุมนุมแค่ฝ่ายเดียว ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนอิสราเอลสามารถชุมนุมกันได้ตามปกติ ทั้งที่ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ให้สิทธิเสรีภาพประชาชนชุมนุมกันได้โดยเสรี

เหตุการณ์สู้รบกันระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์ ทำให้กำลังเกิดกระแสเกลียดชังชาวยิว อย่างในแพลตฟอร์มเทเลเเกรม พบการขู่ที่สะท้อนความเกลียดชังชาวยิวเพิ่มขึ้น 488% ส่วนหลายเมืองในสหรัฐฯ มีรายงานเหตุการณ์ที่ชุมชนชาวยิวถูกคุกคาม ที่อังกฤษและออสเตรเลีย ก็พบรายงานมีชาวยิวถูกคุกคามเพิ่มทั้งในโลกออนไลน์และในชีวิตจริง

ฝรั่งเศสได้ชื่อว่าเป็นบ้านของชุมชนชาวมุสลิมและชาวยิวที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ที่ผ่านมาความขัดแย้งในตะวันออกกลาง มักจุดชวนให้เกิดความตึงเครียดในประเทศมาตลอด แต่ในกรณีนี้ ฝรั่งเศสอยู่ฝ่ายเดียวกับอิสราเอล เพราะกลุ่มฮามาสที่โจมตีอิสราเอลเป็นกลุ่มที่ทางการฝรั่งเศสขึ้นบัญชีเป็นกลุ่มก่อการร้าย

ขณะนี้ ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง เรียกร้องให้ชาวฝรั่งเศสเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และละเว้นการนำประเด็นความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์เข้ามาในบ้าน โดยการโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้มีชาวฝรั่งเศสเสียชีวิต 13 คน และคาดว่ามีชาวฝรั่งเศสถูกจับเป็นตัวประกันอีก 17 คน