
เดนิส มานตูรอฟ รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย พาผู้นำเกาหลีเหนือชมการการผลิตเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ ซู-35 และซู-37 และเครื่องบินโดยสารพลเรือนรุ่นใหม่ เอสเอสเจ-100 นอกจากนี้คิมยังมีโอกาสชมการบินสาธิตของเครื่องบินขับไล่ ซู-35 และคณะผู้ติดตามผู้นำเกาหลีเหนือยังได้รับฟังข้อมูลจากแรงงานและวิศวกรจากแผนกการออกแบบเครื่องบิน ที่แสดงให้เห็นเทคโนโลยีดิจทัล ที่ใช้ในการสร้างเครื่องบินสมัยใหม่
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกลาโหมของเกาหลีใต้ เชื่อว่า การเยือนโรงงานผลิตเครื่องบินนี้อาจเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ลำใหม่ และเกาหลีเหนือได้ขยายรันเวย์ยาวขึ้น 300 เมตร และสร้างโรงจอดเครื่องบินหลังใหม่ใกล้กัน ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมพร้อมรองรับเครื่องบินขับไล่ลำใหม่ที่ใหญ่ขึ้นและมีน้ำหนักมากขึ้น ปัจจุบันเกาหลีเหนือมีเครื่องบินขับไล่รุ่น มิก-29 แต่เครื่องบินซู มีขนาดใหญ่กว่าและหนักกว่าเครื่องบินมิก
แต่ผู้เชี่ยวชาญ บอกด้วยว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เกาหลีเหนือจะซื้อเครื่องบินซู เพราะปัจจุบันรัสเซียไม่ได้มีฝูงบินซูจำนวนมาก เพราะยังต้องผลิตเพื่อการส่งออก ขณะที่รัสเซียมีเครื่องบินมิก-29 รวม 240 ลำ ซึ่ง 70 ลำ ยังคงใช้ปฏิบัติการอยู่ ทำให้คาดว่า ปูตินอาจเสนอเครื่องบินมิก-29 แทนที่จะเป็นเครื่องบินซู
ล่าสุดทำเนียบเครมลินของรัสเซีย แถลงว่า ประธานาธิบดีปูตินและผู้นำเกาหลีเหนือไม่ได้ลงนามข้อตกลงทางทหารหรือข้อตกลงอื่นใด ระหว่างการพบหารือเมื่อวันพุธ
และประธานาธิบดีปูติน แถลงด้วยว่า เกาหลีเป็นเพื่อนบ้าน และรัสเซียต้องสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนบ้าน แต่ก็มีบางข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับคาบสมุทรเกาหลี และ รัสเซียไม่เคยละเมิดข้อตกลงเหล่านั้น และจะไม่ละเมิดด้วย
ทั้งนี้รัสเซียเป็นภาคีสมาชิกในสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ และยังเป็นสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ