svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

'รูเบียเลส' ยันไม่ลาออก หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ 'จูบ' นักเตะหญิง

"หลุยส์ รูเบียเลส" ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปน ยืนยันไม่ลาออกหลังเกิดกระแสความไม่พอใจกรณีที่เขาจูบ "เจนนี เอร์โมโซ" นักเตะทีมชาติสเปน หลังคว้าชัยชนะเหนือทีมชาติอังกฤษ ล่าสุดเหล่านักเตะหญิงจะไม่ลงแข่งขันในนามทีมชาติ จนกว่าลูเบียเลสจะพ้นจากตำแหน่ง

หลังจาก "หลุยส์ รูเบียเลส" (Luis Rubiales) ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปน (RFEF) สร้างปรากฎการณ์จูบสะท้านวงการฟุตอลสเปน "เจนนี เอร์โมโซ" นักเตะที่พาทีมกระทิงสาวเอาชนะทีมนางสิงห์ชาติอังกฤษ ไปได้ 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกหญิง เมื่อวันอาทิตย์ (20 สิงหาคม 2566) ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง โดยเฉพาะในหมู่นักการเมืองที่ดูแลภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ล่าสุดนักเตะหญิงเหล่านี้ประกาศว่า จะไม่ยอมลงแข่งขันในนามทีมชาติไม่ว่านัดไหน ๆ จนกว่าลูเบียเลสจะพ้นจากตำแหน่ง 

'รูเบียเลส' ยันไม่ลาออก หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ 'จูบ' นักเตะหญิง

ไอรีน มอนเตโร รัฐมนตรีกระทรวงความเท่าเทียม ให้ความเห็นว่ามันเป็นรูปแบบหนึ่งของความรุนแรงทางเพศ ที่ผู้หญิงต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ทุกวัน เราไม่ควรถือว่าการจูบโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ส่วนมิเกล อิเซตา รัฐมนตรีกระทรวงกีฬา ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุแห่งหนึ่งว่า การกระทำของรูเบียเลสเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ สิ่งแรกที่เขาต้องทำคือการชี้แจงและขอโทษ มันเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลที่ต้องทำ 

'รูเบียเลส' ยันไม่ลาออก หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ 'จูบ' นักเตะหญิง

หลังตกเป็นเป้ารับทัวร์ที่มาจากทุกทิศทาง รูเบียเลส วัย 46 ปี ได้กล่าวแสดงความเสียใจและขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้น โดยบอกว่ามันเป็นความผิดของตัวเขาโดยสมบูรณ์ เขาต้องยอมรับมัน

"ผมไม่มีเจตนาร้าย ชัยชนะที่เกิดขึ้นมันเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ในตอนนั้นเรามองว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่นั่นก็สร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นแล้ว... ผมต้องขอโทษ ผมจะเรียนรู้จากเรื่องนี้และเข้าใจว่า เมื่อคุณเป็นประธานคุณต้องระมัดระวังให้มากขึ้น"

ยังมีเงื่อนงำที่ผู้ถูกกระทำอย่าง "เอร์โมโซ" ที่ตอนแรกโพสต์ลง  Instagram ว่า "ฉันไม่ชอบเลย" ต่อสิ่งที่รูเบียเลสทำกับเธอ แต่ต่อมาได้กลับลำแถลงปกป้องรูเบียเลส จนกระทั่งล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา เธอได้ออกแถลงการณ์ที่บ่งบอกถึงอารมณ์อันอัดอั้นว่า เธอ "ถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง" ให้ปกป้องเขา ซึ่งเป็น "บอสใหญ่" ขององค์กรฟุตบอลของประเทศที่ "บังคับจูบปาก" เธอ หลังทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก เธอยืนยันว่าไม่ได้ยินยอมให้รูเบียเลสจูบ และกล่าวหาเขากับ RFEF ว่า สภาพแวดล้อมที่ "บิดเบือน" และ "ควบคุม" นักเตะ

'รูเบียเลส' ยันไม่ลาออก หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ 'จูบ' นักเตะหญิง

แถลงการณ์ของเอร์โมโซที่มีนักเตะร่วมทีมชาติ 23 คน กับนักเตะคนอื่นๆ รวมกว่า 80 คน ระบุว่า

"ฉันต้องการชี้แจงว่า ดังที่เห็นในภาพฉันไม่เคยสมยอมให้เขาจูบ และแน่นอนว่าเธอไม่มีทางที่จะยกย่องเชิดชูเขา"

"ฉันไม่ยอมให้คำพูดของฉันถูกตั้งคำถาม ยิ่งไปกว่านั้นคำที่ฉันไม่ได้พูดก็ถูกประดิษฐ์ขึ้น"

'รูเบียเลส' ยันไม่ลาออก หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ 'จูบ' นักเตะหญิง

ถ้อยแถลงนี้มีขึ้น หลังการประชุมของเหล่าผู้บริหารองค์กรฟุตบอลของประเทศ ที่คาดการณ์กันว่ารูเบียเลสจะลาออก แต่กลับกลายเป็นว่าเขายืนกรานจะอยู่ในตำแหน่ง และยังกล่าวหาสื่อกับเอร์โมโซว่าเป็น "ฆาตกรสังคม" (social murder) และ "สตรีนิยมจอมปลอม" (false feminism) ทั้งยังตะโกนถึง 4 ครั้งว่า "ยังไงก็ไม่ลาออก" และอ้างว่า "จูบ" นั้น เกิดจากการยินยอมพร้อมใจ โดยเถียงข้าง ๆ คู ๆ ว่าได้ขออนุญาตเอร์โมโซแล้ว และเธอก็อนุญาตให้เขา "จูบได้นิดหน่อย"

สื่อยังแฉภาพที่เขาเอามือจับเป้ากางเกง ขณะอยู่ใน royal box บนอัฒจันทร์ ที่สมเด็จพระราชินีเลติเซีย กับพระธิดา อินฟันตา โซฟิอา แห่งสเปน ประทับอยู่ด้วย

แม้ว่ารูเบียเลสจะดึงดัน แต่รัฐบาลสเปนก็เริ่มขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อ "แขวน" เขาแล้ว และประธานคณะกรรมการฟุตบอลหญิงของสเปนก็ลาออก เพื่อประท้วงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเขา 

'รูเบียเลส' ยันไม่ลาออก หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ 'จูบ' นักเตะหญิง