เผยภาพซากบนดาวอังคาร เชื่อยานเอเลียนลงจอด
นาซาเผยภาพอันน่าตื่นเต้นบนพื้นผิวดาวอังคาร ที่แสดงให้เห็นเศษซากลึกลับบนดาวอังคาร ที่ทำให้หลายคนปักใจเชื่อว่า อาจเป็นผลพวงของยานอวกาศของเอเลียน ที่พุ่งชนดาวอังคารและทิ้งร่องรอยเอาไว้
องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐฯ (National Aeronautics and Space Administration) หรือ นาซา (NASA) ได้เผยแพร่ภาพที่สร้างความตื่นเต้นให้นักวิทยาศาสตร์และเหล่าด้อมเอเลียน (Alien) ที่แสดงให้เห็นเศษซากลึกลับบนดาวอังคาร ที่อาจเป็นยานอวกาศของเอเลียนสิ่งมีชีวิตนอกโลก ที่อาจที่พุ่งชนดาวอังคารก่อให้เกิดหินรูปร่างประหลาด
หินรูปร่างประหลาดที่เรียกความสนใจนี้ มีลักษะคล้ายกระดูกและมีสิ่งแหลม ๆ ยื่นออกมา นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ไม่อาจปฏิเสธความเป็นไปได้ว่า มียานอวกาศของเอเลียนไปตกบนพื้นผิวของดาวสีแดงดวงนี้ ซึ่งนักวิจัยหลายคนที่เข้าร่วมการศึกษาใหม่ระบุว่า ไม่อาจมองข้ามความเป็นไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพบชิ้นส่วนต่าง ๆ รวมถึงสิ่งที่ดูเหมือนเป็นล้อ เพลา และเศษซากอื่น ที่ถูกถ่ายภาพได้ในจุดสำรวจที่เรียกว่า "Gale Crater" บนดาวอังคาร
แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังยึดถือความคิดที่ว่า การก่อตัวของหินรูปร่างประหลาด น่าจะเกี่ยวข้องกับการเกิดแผ่นดินไหวบนดาวอังคารมากที่สุด โดยเชื่อว่าส่วนที่ยื่นออกมาดูเหมือนสิ่งที่เรียกว่า "sand spike" บนโลก ที่ปรากฎบนโลกระหว่างเกิดแผ่นดินไหวระดับ 7 ขึ้นไป
ศาสตราจารย์ริชาร์ด อาร์มสตรอง แห่ง Aston University ในเมืองเบอร์มิงแฮม ที่เป็นคนแรกที่เขียนลงในรายงาน เปิดเผยว่าจากประสบการณ์ของเขา ถือว่าโครงสร้างเหล่านี้ผิดปกติมากบนดาวอังคารและไม่เหมือนใคร ไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นสาเหตุของหนามแหลมและโครงสร้างที่เกี่ยวข้อง แต่หลักฐานที่สมดุลชี้ให้เห็นถึงประเภทของ sand spike ที่ก่อตัวขึ้นบนโลกอันเป็นผลมาจากการไหวสะเทือน
แต่นักธรณีวิทยาบางคนชี้ว่า มีความแตกต่างบางประการระหว่างหนามแหลมของ sand spike บนดาวอังคารกับบนโลก วัตถุบนดาวอังคารไม่มีปลายกระเปาะเหมือนกับบนโลก และลักษณะที่เป็นฟันปลาก็ไม่เหมือนบนโลก
ศาสตราจารย์อาร์มสตรองสรุปว่า มีความเป็นไปได้ที่ยานอวกาศของเอเลียนจะตกเป็นจำเลยของเรื่องนี้ แม้จะคิดว่าหนามแหลมไม่น่าจะเป็นเศษซากอวกาศ แต่ก็ไม่อาจตัดความน่าจะเป็นไปได้ เขาบอกด้วยว่าในส่วนที่เป็น "วงล้อ" ก็เหมือนจะเป็นปรากฎการณ์แยกออกไป มีการคาดการณ์กันเกี่ยวกับหินก้อนนี้ ตั้งแต่ยานอวกาศ Curiosity ของนาซา ถ่ายภาพหินก้อนนี้ได้ที่ Gale Crater ซึ่งมีความยาว 154 กิโลเมตร เมื่อเดือนเมษายน ซึ่งตอนนั้น ดร.นาธาลี เคบรอล นักชีวดาราศาสตร์ กล่าวว่ามันเป็น "หินที่แปลกประหลาดที่สุด" ที่เคยเห็นในรอบ 20 ปี ของการศึกษาดาวเคราะห์สีแดงดวงนี้
เคบรอลยังตั้งสมมติฐานด้วยว่า ลมบนดาวอังคารอาจเป็นตัวการก็ได้ โดยลักษณะที่เห็นน่าจะเป็น "ระลอกคลื่นที่หลงเหลืออยู่หลังจากการสึกกร่อนจำนวนมาก" นอกจากนี้ฟอสซิลกระดูกปลา ซากไดโนเสาร์ หรือชิ้นส่วนของยานอวกาศเก่าแก่ที่สร้างจากโลก ก็เคยถูกกล่าวถึงว่าเป็นสาเหตุที่เป็นไปได้ที่ก่อให้เกิด "ลักษณะแหลมคม"
