กองทหารแวกเนอร์คือใคร ทำไมถึงทรยศปูติน

แวกเนอร์ คือกองทหารรับจ้างภายใต้การนำของ เยฟเกนี พริโกซิน อดีตคนใกล้ชิดที่สุดคนหนึ่งของ วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งกองทหาร แวกเนอร์ ช่วยกองทัพรัสเซียในการทำสงครามในยูเครน โดย แวกเนอร์ มีทหารอยู่ทั้งหมด 50,000 นาย ในจำนวนนี้เป็น ทหารรับจ้าง จำนวน 10,000 นาย และเป็นนักโทษที่ถูกเกณฑ์มารบอีก 40,000 คน ซึ่งพริโกซินได้เกณฑ์นักโทษจากเรือนจำทั่วรัสเซียให้มารบที่ยูเครน โดยมีการทำข้อตกลงกับทางรัฐบาลว่า หากนักโทษคนไหนไปรบเป็นเวลาครบ 6 เดือน ก็จะพ้นโทษ จึงทำให้มีนักโทษจำนวนหนึ่งอาสามาร่วมรบด้วย

ในสงครามยูเครนที่ดำเนินมาแล้ว กว่า 1 ปีครึ่ง กองทหารแวกเนอร์ทำผลงานได้ดีที่สุดในบรรดากองทหารของรัสเซียทั้งหมด และเป็นกองทหารที่ถูกส่งไปรบในพื้นที่ที่มีการสู้รบกันดุเดือดที่สุด เช่นในเมืองบัคมุต ทางภาคตะวันออกของยูเครน แต่การสู้รบที่ดุเดือดก็ทำให้ทหารของแวกเนอร์เสียชีวิตจำนวนมาก โดยทางการสหรัฐฯ ประเมินว่านับตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา มีทหารรัสเซียเสียชีวิตจากการสู้รบไปแล้วกว่า 20,000 นาย ในจำนวนนี้เป็นทหารของแวกเนอร์มากถึงครึ่งหนึ่ง ที่เสียชีวิตในการสู้รบที่เมืองบัคมุต

เมื่อทหารของแวกเนอร์เสียชีวิตมากขึ้น บวกกับการที่ไม่ได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธจากกองทัพรัสเซีย ทำให้พริโกซิน ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลรัสเซียมากขึ้น โดยบอกว่ากองทัพรัสเซียนั้นไร้ความสามารถในการรบ และปล่อยให้พวกเขาสู้อย่างเดียวดายโดยไม่ส่งกระสุนปืนและอาวุธที่จำเป็นมาให้ เขาเคยปล่อยคลิปวิดีโอที่ยืนพูดท่ามกลางศพของทหารแวกเนอร์ที่เสียชีวิตจากการสู้รบ พร้อมกับสาปแช่งคนที่ไม่ยอมส่งกระสุนมาให้พวกเขา ว่าต้องตกนรกหมกไหม้

คนที่พริโกซินกล่าวโทษมากที่สุดที่ทำให้ทหารแวกเนอร์ล้มตายจำนวนมากคือ เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมของรัสเซีย ซึ่งเขากล่าวหาด้วยว่า ชอยกู คือคนที่สั่งยิงขีปนาวุธโจมตีค่ายทหารของแวกเนอร์ในยูเครน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และเขาได้ประกาศว่ากองทัพของเขาจะลงโทษชอยกู ด้วยการยึดอำนาจ แต่พริโกซินบอกว่า การยึดอำนาจของเขาไม่ใช่การก่อกบฏ  แต่เป็นการคืนความยุติธรรมให้แก่ทหารที่เสียชีวิต

ทหารรับจ้างของแวกเนอร์ขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้าย ซึ่งสหประชาชาติและสหภาพยุโรปเคยกล่าวหาทหารแวกเนอร์ว่าได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง ที่มีทั้งการทรมาน การเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ ในการสู้รบที่แอฟริกา ลิเบีย ซีเรีย และยูเครน

ด้านปูตินออกมาบอกว่า การพยายามยึดอำนาจของกองทหารแวกเนอร์คือการก่อกบฏ และเป็นการแทงกันข้างหลัง ขณะที่ผู้นำต่างชาติจับตาความขัดแย้งระหว่างกองทหารแวกเนอร์ และกองทัพรัสเซียอย่างใกล้ชิด เพราะนี่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของสงครามในยูเครน โดยรัสเซียต้องหันมาให้ความสำคัญในการปกป้องกรุงมอสโก ซึ่งกองทัพยูเครน อาจใช้โอกาสนี้บุกโจมตีพื้นที่ในยูเครนที่ถูกกองทัพรัสเซียยึดครองเพิ่มเติม และยิ่งทำให้ยูเครนกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบในการโจมตีกองทัพรัสเซียกลับ